ทั้งนี้ ศูนย์ดัชนีและพยากรณ์เศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้สำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกจังหวัดทั่วประเทศจากประชาชนตัวอย่าง 3,381 ราย เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ รายได้และโอกาสหางานทำในปัจจุบัน และในอีก 3 เดือนข้างหน้า
"ค่าดัชนียังต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นระดับปกติ สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจมากนักจึงยังระมัดระวังการใช้จ่าย แต่เริ่มมีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) บริหารประเทศ ทำให้ปัญหาทางการเมืองคลี่คลาย บ้านเมืองมีความสงบ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากขึ้น" นางอัมพวัน กล่าว
ส่วนความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีต่อรายได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า และการวางแผนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และซื้อรถยนต์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่มีความเชื่อมั่นมากนัก เพราะแม้สถานการณ์ทางการเมืองจะคลี่คลาย ประชาชนรู้สึกปลอดภัย ชาวนาได้รับเงินจากโครงการจำนำ ซึ่งตามข้อเท็จจริง ต้องส่งผลทางจิตวิทยาให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น แต่ยังมีการรอดูท่าทีก่อน โดยเฉพาะชาวนาที่ต้องนำเงินส่วนใหญ่ไปชำระหนี้
อนึ่ง กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมาตั้งแต่ปี 43 และเคยแถลงข่าวในช่วงปี 55 อยู่ระยะหนึ่ง โดยการคำนวณค่าดัชนีได้ใช้ค่าดัชนีระหว่าง 0-100 โดยระดับปกติอยู่ที่ 50 ขณะที่ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ใช้ค่าดัชนีระหว่าง 0-200 โดยระดับปกติอยู่ที่ 100 ซึ่งผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของทั้ง 2 หน่วยงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น หลังจาก คสช. บริหารประเทศ