นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและ
ตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) กล่าวถึงแนวโน้มที่จะมีการปรับขึ้นอัตรา
ภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จากระดับ 7% ในปัจจุบันเป็น 10% ในช่วงเดือนต.ค.58 ว่า การปรับขึ้น VAT จะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้านโดยเฉพาะความพร้อมของเศรษฐกิจภายในประเทศ ตลอดจนการบริโภค และการลงทุนที่จะต้องไม่สะดุดไปด้วย ซึ่งหากจะมีการปรับขึ้นภาษี VAT จากอัตรา 7% เป็น 10% จริงก็ควรรอให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้มากกว่า 4-5% ก่อนจึงจะเหมาะสมกว่า เพื่อจะได้แน่ใจว่าการปรับขึ้น VAT ไม่ได้เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจประเทศ
"การขึ้น VAT ในเร็วๆ นี้คงจะไม่สมควร คงจะต้องหลังปี 58 ไปก่อน...รอให้เศรษฐกิจโตได้มากกว่า 4-5% ค่อยปรับ เพราะจะได้เป็นกันชนไว้ได้ในระดับหนึ่งว่าการเพิ่ม VAT จะไม่เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจของประเทศ" นายกอบสิทธิ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า หากจะมีการปรับขึ้น VAT จริง ก็ควรปรับขึ้นทีละน้อย เช่น 0.25% ไม่ควรปรับขึ้นครั้งละ 1-2% ควรจะค่อยๆ ทยอยปรับขึ้นเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจได้ค่อยๆ ซึมซับต่อการเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยก่อน เพราะดูตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นที่ในเดือนเม.ย.57 มีการปรับขึ้นภาษีการบริโภคจาก 5% เป็น 8% เลยนั้น ทำให้ผู้บริโภคมีการเร่งกักตุนสินค้าในช่วงก่อนจะที่จะปรับขึ้นภาษี และหลังจากขึ้นภาษีแล้วการบริโภคก็ปรับตัวลดลง ซึ่งสร้างความผันผวนต่อบรรยากาศการบริโภคภายในประเทศ
"หากจะขึ้นภาษี VAT จริงก็ควรทยอยขึ้นทีละน้อย เพื่อให้เศรษฐกิจค่อยๆ ซึมซับ...อาจจะขึ้นคราวละ 0.25% แต่ไม่ควรขึ้นถึงคราวละ 1% เพราะจะส่งผลให้การออมและกำลังซื้อมีข้อจำกัด" นายกอบสิทธิ์ ระบุ
อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]