ผู้ว่าธปท.รับคาดการณ์ทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายหลังตั้งรัฐบาลยังยาก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 4, 2014 12:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างชาติหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลของไทยยังคงคาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากจากภาพเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ดำเนินนโยบายทางการเงินสวนทางกัน อย่างสหรัฐฯกำลังจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือมีการปรับทิศในการดำเนินนโยบายทางการเงิน ขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่น ยังคงดำเนินนโยบายในเชิงผ่อนคลายทางการเงิน แต่เมื่อมองปัจจัยภายในประเทศ เชื่อว่าไทยจะยังได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ต่างๆ รอบด้านที่เริ่มดีขึ้น

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่เป็นกังวลอีกประเด็นหนึ่งคือ สงครามในตะวันออกกลาง รวมถึงการที่สหรัฐและยุโรปร่วมมือกันเพื่อคว่ำบาตรรัสเซีย มองว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะการฟื้นตัวของยุโรปที่อาจจะถดถอยลงไป ประกอบกับ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับรัสเซีย เพียงแต่เศรษฐกิจไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก

ขณะที่ไทยก็คงได้รับผลกระทบในด้านของภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก ขณะที่การเตรียมพร้อมและการป้องกัน คงต้องมาวิเคราะห์กันอีกทีว่าจะเกิดขึ้นในมุมไหน เพื่อหาวิธีการตั้งรับต่อไป

ส่วนแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังนี้ ทาง ธปท.ยังเห็นการให้สินเชื่อที่อยู่ในระดับปกติ โดยมองว่าปีนี้ตัวเลขสินเชื่อรวมน่าจะเห็นเป็นตัวเลขหลักเดียว หรือราว 6-8% ซึ่งไม่ถึงกับน่าเป็นกังวลว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่

"เรายังเห็นการให้สินเชื่อที่อยู่ในระดับปกติ ปีนี้อาจจะเห็นเป็นตัวเลขหลักเดียว ค่อนไปทางข้างบน 6-8% ซึ่งในระดับนี้ถือว่าไม่ถึงกับซบเซา และไม่ถึงกับน่าเป็นห่วง ว่าจะเกิดฟองสบู่"นายประสาร กล่าว

ผู้ว่า ธปท. กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังนี้ปรับตัวดีขึ้น จากครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากภาวะความไม่สงบทางการเมือง ส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจครึ่งปีแรกติดลบเล็กน้อย โดยเชื่อว่าไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4/57 จะสามารถเติบโตได้ 3-4% ต่อไตรมาส และทั้งปีการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) จะอยู่ที่ระดับ 1.5% ได้ และมองว่าปี 58 การเติบโตของ GDP จะเติบโตได้ตามศักยภาพ รวมถึงเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีนี้ โดยคาดว่าตัวเลขการเติบโตน่าจะอยู่ที่ระดับ 5.5%

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ส่งผลดีต่อด้านการอุปโภคและการบริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ด้านการส่งออก ซึ่งยังต้องพึ่งพาปัจจัยจากต่างประเทศ มองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของต่างประเทศยังเป็นไปในลักษณะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น ดังนั้น การส่งออกของไทยก็อาจจะไม่ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วมากนัก คาดว่าจะอยู่ในระดับ 3% ในปี 57 ส่วนด้านการลงทุนของภาคเอกชนที่ผ่านมามีการชะลอการลงทุนออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์ คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาพของการลงทุนจะกลับมาดีขึ้น ทั้งการนำเข้า และการผลิต

"ไม่ต้องไปกังวลมากและไม่ควรจะใจร้อน ซึ่งทิศทางต่างๆเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยเหตุผลที่เข้าใจได้ว่าครึ่งปีแรกมีผลกระทบค่อนข้างมากจากภาวะทางการเมือง แต่แน่นอนเวลาพูดถึงตัวเลขบางทีเราก็จะเห็นความใจร้อนที่อยากจะเห็นตัวเลขกระโดดขึ้นมาเป็นตัวเลขสูงๆ ซึ่งมองว่าต้องใช้เวลาในการปรับตัว โดยในไตรมาส 1/57 ติดลบ 16% ไตรมาส 2/57 ก็เริ่มเห็นการทรงตัว เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกได้ ขณะที่ตัวเลขการเติบโตของ GDP ถ้าจะให้เกิน 2% มองว่าการเติบโตของไตรมาส 3 กับ 4 จะต้องมีการเติบโตแบบไม่ปกติ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทย ยกเว้นช่วงน้ำท่วม โดยคาดว่าปีนี้น่าจะเติบโตได้ 1.5%"นายประสาร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ