อดีตปลัดคลัง แนะเร่งสร้างรายได้เข้ารัฐ/"บัณฑูร"แนะเร่งลงทุน-จัดลำดับความสำคัญปัญหา

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 6, 2014 18:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อดีตปลัดกระทรวงการคลัง แนะกระทรวงการคลังเร่งหารายได้เพิ่มเข้ารัฐ ขยายฐานภาษี ด้านนายแบงก์แนะภาครัฐและภาคเอกชนเร่งลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ หนุน GDP โตกว่า 2%

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะอดีตปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สิ่งที่ท้าทายกระทรวงการคลังในขณะนี้ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือในการหารายได้ให้เพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่เก็บรายได้จากภาษีได้ 17% ของจีดีพี โดยการจัดระบบการเก็บภาษีนิติบุคคลให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่ากับการเก็บภาษีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และวางแนวทางในการดึงให้บุคคลธรรมดาที่ไม่มีรายได้ประจำเข้ามาสู่ระบบการชำระภาษี

นอกจากนี้ยังต้องเร่งดำเนินการเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การใช้ประโยชน์จากที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ที่มีอยู่กว่า 12 ล้านไร่ ซึ่งพบว่ามีที่ดินกว่า 90% ที่ถูกบุกรุกและไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ การเพิ่มรายได้เงินนำส่งรัฐวิสาหกิจจากปีละ 1 แสนล้านบาทให้มากขึ้น รวมทั้งการนำเงินจากคนที่ไม่นำสลากมาขึ้นรางวัลซึ่งมีจำนวนมากให้นำมาตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือสังคม

พร้อมกันนี้ สิ่งที่ต้องการจะเห็นอีกเรื่อง คือ การทำให้เพดานหนี้สาธารณะตามกรอบความยั่งยืนทางการคลังเป็นกรอบที่ถาวร ไม่ใช่การตั้งกรอบไปตามมติคณะรัฐมนตรี แต่ต้องการให้เป็นกรอบที่บรรจุอยู่ในพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) เพื่อให้เกิดเป็นการบังคับใช้ที่ถาวร ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงไปตามมติของคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้ง

ด้านนายนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าแนวโน้มจีดีพีปี 2557 จะขยายตัวได้มากกว่า 2% หากภาครัฐและเอกชนเร่งการลงทุนให้เร็วขึ้นในช่วงที่เหลือของปี รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและบริการกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง หลังจากปัญหาการเมืองของไทยคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังอยากเห็นประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถในการจัดการปัญหาเรื่องต่างๆ ได้อย่างดีพอสมควร เพราะที่ผ่านมาไทยประสบปัญหาการทะเลาะกันตามท้องถนน ซึ่งถือเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศอย่างมาก

"ขณะนี้ความท้าทายทางเศรษฐกิจไทย ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่เกิดมาในช่วงหลายยุคหลายรัฐบาลแล้ว ส่วนภาคการเมืองของไทยในปัจจุบันที่เป็นแบบนี้ ต้องบริหารจัดการไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นมาแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด จะคิดจะบริหารต้องทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด ส่วนการบริหารจัดการประเทศของ คสช. ควรมีการจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหาเพราะไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาไปพร้อมๆกันได้ทั้งหมด ขึ้นกับดุลยพินิจว่าจะให้ความสำคัญกับปัญหาใดก่อน" นายบัณฑูร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ