โดยปัจจุบันไทยมีการนำเข้าพลังงานปีละ 3% และอัตราการใช้พลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นปีละ 3% ซึ่งหากต้องการให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวเติบโตไปได้นั้นต้องมีการบริหารพลังงานด้วยการวางแผนให้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด
"แม้ขณะนี้ไทยจะมีราคาพลังงานต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ต้องมีการบริหารจัดการเพื่อรักษาระดับราคาให้อยู่ในระดับที่ต่ำต่อไป รวมถึงการผลักดันให้พลังงานไฟฟ้าสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ในอนาคต โดยการวางแผนด้านพลังงานควรต้องมีการร่วมมือกัน" นายอารีพงศ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายความมั่นคงด้านพลังงานไทย" ในงานสัมมนาวิกฤตความเสี่ยงพลังงานกับอนาคตการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
สำหรับแผนพัฒนาพลังงานนั้นจะมีเรื่องการผลักดันให้มีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น 25% ซึ่งต้องหาวิธีดำเนินการจัดการ เนื่องด้วยพลังงานทดแทนมีราคาที่สูงกว่าก๊าซและน้ำมัน ขณะที่ก๊าซและน้ำมันที่ใช้เป็นพลังงานหลักมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะก๊าซที่มีการใช้ถึง 70% ขณะที่แหล่งผลิตก๊าซเริ่มลดน้อยลงไป จึงมองว่าพลังงานทดแทนจะต้องเกิดขึ้น อย่างพลังงานน้ำ และถ่านหินสะอาด
นอกจากนี้ควรมีแผนพัฒนาพลังงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมองว่าพม่าก็มีความต้องการใช้พลังงานมากขึ้น หลังมีการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งควรจะมีการร่วมมือกันเพื่อบริหารทรัพยากร อีกทั้งการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานถ่านหินซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่าก๊าซเกือบครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การอนุรักษ์พลังงานก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่จะต้องหารือกันถึงรูปแบบพลังงานที่จะใช้ต่อไป ประกอบกับการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อแผงโซลาร์เซลหมดอายุ ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบ โดยต้องไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนการส่งเสริมการผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ทั้งจากขยะชุมชน และขยะอุตสาหกรรม เนื่องด้วยอุตสาหกรรมในภาพรวมปัจจุบันยังเข้าระบบไม่ถึงครึ่ง หากสามารถดำเนินการคัดแยกขยะออกมาจะสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงได้ช่วยลดการนำเข้าพลังงาน ลดของเสียจากการผลิต ซึ่งกระทรวงพลังงานยินดีให้แอดเดอร์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น
"เราก็จะมีการประมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตว่าจะต้องใช้กันเท่าไหร่ เราก็จะมาดูต่อว่าในเรื่องของอนุรักษ์พลังงานจะเป็นแบใด หากเราสามารถประหยัดพลังงานได้จะส่งผลให้การใช้พลังงานเติบโตในอัตราที่ลดลงกว่า 3% ซึ่งจะทำให้เงินที่นำเข้าพลังงาน จะกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น และทำให้ประเทศมีความแข็งแกร่งมากขึ้น" นายอารีพงศ์ กล่าว
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขอเวลา 3 เดือน(ส.ค.-ต.ค.57) ที่จะจัดทำประมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยเดือนแรกจะเป็นการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เดือนที่ 2 ระดมความคิดเห็นเพื่อที่จะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เกี่ยวกับโครงสร้างพลังงานที่จะจัดทำขึ้น และเดือนที่ 3 รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชน เพื่อให้เกิดแผนพลังงาน (PDP)