เงินบาทปิด 32.16/21 ทรงตัวแต่แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลล์แข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 11, 2014 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.16/21 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.19/20 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างทรงตัว แต่ยังมีแนวโน้มไปในทิศทางที่อ่อนค่าได้ ซึ่งเป็นไปตามตลาดโลกที่สกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอยู่ต่อเนื่อง

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.15-32.30 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องรอดูตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐ ซึ่งถ้าตัวเลขออกมาดี ดอลลาร์ก็มีโอกาสจะแข็งค่าได้ต่อ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 106.71 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.2901 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2911 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,580.87 ลดลง 1.26 จุด (-0.08%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 66,576 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 163.61 ลบ.(SET+MAI)
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง มีกำหนดเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม รมต.คลังเอเชีย-ยุโรป(Asia-Europe Finance Ministers’ Meeting:ASEM FinMM) ครั้งที่ 11 ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี โดย รมว.คลัง จะใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาคมโลกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการเมืองของไทย ตลอดจนนำเสนอแนวนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่จะมุ่งพัฒนาประเทศในระยะต่อไป รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนกับต่างประเทศ และการดำเนินการต่างๆ เพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
  • บริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่า มุมมองของบริษัทจัดอันดับเครดิตในต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยในปัจจุบันยังค่อนข้างดี และยังไม่มีการปรับอันดับเครดิตลงจากระดับ BBB+ หลังจากเสถียรภาพทางการเมืองนิ่งขึ้น ประชาชนสามารถประกอบอาชีพและค้าขายได้ตามปกติ ทำให้มีความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งการมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แม้ว่าจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ก็มีการประกาศขอบเขตเวลาที่ชัดเจน ทำให้ความเชื่อมั่นของคนในประเทศเริ่มกลับฟื้นขึ้นมา และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/57 จะฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับ การเดินหน้าผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีความโปร่งใสในการลงทุนจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
  • Standard & Poor’s ได้สรุปความเสี่ยงที่สำคัญ และแนวโน้มของภาคสถาบันการเงินของไทยว่า ความเสี่ยงด้านเครดิตมีแนวโน้มคงที่ (Stable) และเชื่อว่าปัญหาทางการเมืองของไทยจะต้องใช้เวลานานพอควรในการแก้ไข ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทยในอนาคต
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 32 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,568 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,252.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.47 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดเผยว่า ยอดขายรถเดือนส.ค.ของจีนแตะ 1.71 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.04% เมื่อเทียบรายปี และปรับตัวขึ้น 6.72% เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนการผลิตรถยนต์ของจีนอยู่ที่ 1.71 ล้านคันในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.22% เมื่อเทียบรายปี แต่ลดลง 0.34% เมื่อเทียบรายเดือน
  • ผลการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าผลกระทบในด้านลบจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น กำลังลดน้อยลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 1 พันล้านเยนหรือมากกว่านั้น อยู่ที่ระดับ 11.1 ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ระดับ -14.6

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยดัชนีคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 9.9 ในไตรมาส 4 และ 7.3 ในไตรมาสแรกของปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ