นาย
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ(
ส.อ.ท.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะมีการปรับขึ้นอัตรา
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7%แต่หากจะปรับต้องทำในเวลาที่เหมาะสม เช่น ในช่วงที่เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น ซึ่งมองว่าปีหน้าการเมืองไทยนิ่ง การส่งจะทยอยดีขึ้น การลงทุนในประเทศสูงขึ้นมาก เงินลงทุนและงบประมาณภาครัฐจะสูงขึ้นพอสมควร การปรับตัวเพื่อรองรับการเข้าสู่ AEC จะมากขึ้น การค้าชายแดนกับประเพื่อนบ้านจะดีขึ้นมาก ซึ่งมองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (
GDP) ปีหน้าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4-5%
"เรื่อง VAT ถือเป็นกลไก เพราะ 7% ถือว่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ เช่น ยุโรป แต่เราใกล้เคียงสิงคโปร์ เชื่อว่างบประมาณที่เราใช้ในวันนี้กับรายได้ไม่สมดุลกัน ทำให้ต้องมีการปรับกลไกของภาษี แม้จะขึ้นภาษี VAT และการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% ก็เป็นกลไกที่จะทำให้ผู้ประกอบการแข็งแรงขึ้น" นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า การจะปรับขึ้น VAT คิดว่าในปีหน้าคงเห็น ซึ่งต้องจับตาว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ไหม แต่หากปีหน้ามีวิกฤติอะไรเกิดขึ้นก็อาจต้องมาทบทวนกัน
"ทุกคนคาดว่าปีหน้าจะดี จากนี้ไปเราควรจะโตไม่ต่ำกว่า 4.5% ถ้ายังโต 1% 2% 3% ถือว่าเรายังถอยหลัง เพราะทุกวันนี้ทุกประเทศในโลกมองมาที่อาเซียนเป็นหลัก เพราะค่าเฉลี่ยการเติบโตของกลุ่มอาเซียนค่อนข้างสูง ประมาณ 6%...10 ปีย้อนหลังจีดีพีไทยโตเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน"
ประธาน ส.อ.ท. ยอมรับว่า ตัวเลขการส่งออกอาจเติบโตได้เพียง 2% จากเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ 3.5% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ทำท่าจะดีในระยะแรกก็มีเรื่องสงครามมาบั่นทอน ทำให้เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัวลง ราคาน้ำมันถูกลง
"ยอมรับว่าการส่งออกของไทยปีนี้คงไปไม่ถึงเป้า 3-3.5% ดีที่สุดอาจได้แค่ 2%" ประธานส.อ.ท. กล่าว
อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]