"เปิดมาบาทกระโดดทำนิวไฮนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากปรับลด QE ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทเป็นทิศทางทางการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ หลังรู้ผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดมาตรการ QE แต่อาจมีแรงขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกทำให้เงินบาทไม่อ่อนค่ามากนัก
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.25-32.40 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3117 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(17 ก.ย.) อยู่ที่ 1.91867% และ THAI BAHT FIX 6M(17 ก.ย.) อยู่ที่ 1.93338%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.52 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.20 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2864 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2967 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.2240 บาท/ดอลลาร์
- "ประยุทธ์" จี้ราชการเร่งทำผลงานให้เป็นรูปธรรม ขีดเส้นรายงาน ครม. ทุก 3 เดือน สั่งเร่งเบิกจ่ายให้มีประสิทธิภาพ ย้ำคุมหนี้สาธารณะให้เหมาะสม "ปรีดิยาธร" เร่งออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เสนอตั้งบอร์ดขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ให้นายกฯ นั่งประธานวางรากฐานเศรษฐกิจ ย้ำปฏิรูปภาษีไม่กระทบคนจน - เกษตรกร เผยเจ้าสัวพร้อมจ่ายภาษีมรดก
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า รัฐบาลจะมีการตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ (National Digital Economy Committee) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนั่งเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ด้วยตัวเอง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบความสำเร็จ
- นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ราคูเท็น ตลาดดอทคอม เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซน่าจะเติบโตอีก 10-20% จากปกติที่โตอยู่แล้วปีละ 20-25% มูลค่าตลาดรวม 7.4 แสนล้านบาท หากรัฐเริ่มเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะจะทำให้ภาครัฐและเอกชนในไทยเปลี่ยนจากการทำธุรกิจการค้าทำธุรกรรมที่ต้องมีกระดาษเป็นการมาใช้อีคอมเมิร์ซมากขึ้น
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed fund rate) เอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% และยังคงยืนยันว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนดก็ตาม
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลดลง 0.40% แตะที่ 6.149 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 112 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,330 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,225.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 12.12 ดอลลาร์สหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 94.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 8 เซนต์ ปิดที่ 98.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยมติการประชุมภายหลังจากตลาดปิดทำการแล้ว โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,235.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 เซนต์ ปิดที่ 18.734 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,362.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 5.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 839.05 ดอลลาร์/ออนซ์
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยืนยันว่าจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนหน้า โดยค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2919 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2961 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6292 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6280 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.00 เยน เทียบกับระดับ 107.15 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9380 ฟรังค์ จาก 0.9326 ฟรังค์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9094 ดอลลาร์