นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.41/43 บาท/ดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.45/46 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค
"เงินบาทขยับแข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย แต่ค่อนข้างทรงตัว ทิศทางวันนี้น่าจะแกว่างตัวในกรอบแคบๆ ตลาดรอผลประชุม FOMC คืนนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.4350 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(27 ต.ค.) อยู่ที่ 1.90019% และ THAI BAHT FIX 6M(27 ต.ค) อยู่ที่ 1.90067%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.87 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.80 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2707 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2685 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4210 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานข้อมูลหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสถาบันการเงินทั้งระบบ ล่าสุดณ สิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมาว่า มียอดคงค้างทั้งสิ้น 2.90 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.52% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 1.09 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.93% เทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ที่มี 2.78 แสนล้านบาท หรือ 2.46% ของสินเชื่อรวม
- 'หม่อมอุ๋ย' เตรียมออกแพคเกจลดหนี้ สั่งกระทรวงเกษตรฯเช็กสถานะหนี้สินเกษตรกรทั้งประเทศ เป็นนโยบายเร่งด่วน หวังช่วยลืมตาอ้าปาก เริ่มต้นชีวิตใหม่ ผงะมูลหนี้ 1.2 ล้านล้าน ธ.ก.ส.บักโกรก 1 ล้านล้าน เป็นหนี้เสีย 3.9 หมื่นล้าน สศก.ผนึกทีดีอาร์ไอหาแนวทางแก้ปัญหา
- กระทรวงการคลังงัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อกสอง คาดเคาะได้เดือนธันวาคมนี้ หวังปัมจีดีพีปีหน้า มองแนวโน้มดีขึ้นหลังยาชุดแรกเริ่มออกฤทธิ์ มั่นใจปีนี้โตเกิน 1.5% ลุ้น สศค.หั่นเป้าหมายจีดีพีรอบสุดท้าย นักวิชาการเตือนอย่ากระตุ้นให้ครัวเรือนสร้างหนี้ ชี้ควรเน้นสร้างบรรยากาศลงทุน พร้อมเร่งรัดการเบิกจ่าย
- "ประยุทธ์" เผยรัฐบาลเตรียมแผนรับมือเศรษฐกิจปีหน้า รับเป็นห่วงจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นตัว ด้านคลังเตรียมเปิดแผนกระตุ้นรอบใหม่ในเดือนธ.ค.นี้ รอประเมินผลในรอบแรก ส่วนสศค.เตรียมหั่นจีดีพีปีนี้ 30 ต.ค.นี้ ขณะภาคเอกชนหวังภาครัฐเดินหน้าลงทุน สร้างบรรยากาศลงทุน-ความเชื่อมั่นชี้หวังส่งออกยาก
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน(NBS) เผยบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 5.6339 แสนล้านหยวน(9.236 หมื่นล้านดอลลาร์) หลังจากลดลง 0.6% ในเดือน ส.ค. ทั้งนี้บริษัทอุตสาหกรรมมีผลกำไรรวมที่ระดับ 4.37 ล้านล้านหยวนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการขยายตัวของผลกำไรได้ชะลอลง 2.1% จากช่วง 8 เดือนแรก
- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.25% แตะที่ 6.1421 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 50 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,350 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,227.76 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 5.41 ดอลลาร์สหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในปีหน้าลง เนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 81 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 85.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เพราะได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมวันพุธนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 1,229.3 ดอลลาร์/ออนซ์
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ เนื่องจากดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) ของสหรัฐในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ซึ่งหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปเป็นระยะเวลานาน