วานนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนกันยายนอยู่ที่ 19,913.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ 3.2%YOY ด้านการนำเข้าปรับเพิ่มขึ้นถึงกว่า 14%YOY มาอยู่ที่ 21,711.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ไทยขาดดุลการค้าที่ 1,798.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนกันยายน โดยมูลค่าการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 นั้นหดตัวที่ 1.8%YOY เช่นเดียวกับการนำเข้าที่ลดลง 1.3% ส่งผลให้ไตรมาส 3 ไทยขาดดุลการค้าที่ 1,754.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
SCB EIC ระบุว่า มูลค่าการส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่การส่งออกรถยนต์ยังน่ากังวล มูลค่าการส่งออกข้าวขยายตัวถึง 49.2%YOY ในเดือนกันยายน จากปริมาณส่งออกที่เพิ่มขึ้นกว่า 90% นอกจากนี้มูลค่าการส่งออกน้ำตาลยังคงเพิ่มเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยในเดือนกันยายนขยายตัว 21.9%YOY อย่างไรก็ดีมูลค่าการส่งออกยางพารายังคงหดตัว โดยลดลง 27.6%YOY ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกการส่งออกยางพาราติดลบถึง 20.8%YOY ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในเดือนกันยายนขยายตัวได้ดี ในหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบขยายตัว 5.3%YOY ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ นอกจากนี้การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0%YOY จากการส่งออกเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบที่ขยายตัวถึง 11.3%YOY
แต่ทว่ามูลค่าการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบนั้นยังคงน่ากังวล โดยในเดือนกันยายนหดตัวอีก 13.6%YOY เป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์นั่งไปยังตลาดอินโดนีเซียที่หดตัวกว่า 40% เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ภายในอินโดนีเซียเอง ทั้งนี้การส่งออกชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ยังสามารถขยายตัวได้ โดยในเดือนนี้ขยายตัว 11.4%YOY
มูลค่าการส่งออกไปยังตลาดหลักฟื้นตัวได้ดี แต่การส่งออกไปจีนยังคงมีปัญหา ในเดือนกันยายนนี้การส่งออกไปยังตลาดกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นกลับมาขยายตัว โดยเพิ่มขึ้น 6.2%YOY 3.8%YOY และ 1.4%YOY ตามลำดับ จากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนที่กลับมาขยายตัวถึง 8.8% ในเดือนกันยายน แต่การส่งออกไปยังตลาดจีนยังคงหดตัว 1.7%YOY จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกการส่งออกไปจีนหดตัวถึง 5.0%YOY
มูลค่าการนำเข้าขยายตัวเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยในเดือนกันยายนการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเชื้อเพลิงขยายตัว 6.3%YOY จากการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นกว่า100%YOYนอกจากนี้ การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูปกลับมาขยายตัวที่ 21.8%YOY โดยมีการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าเพิ่มขึ้น 35.8%YOY ทั้งนี้การนำเข้าสินค้าทุนที่ไม่รวม เครื่องบิน และเรือ ยังคงหดตัวที่ 1.8%YOY แต่ทว่าการนำเข้าเครื่องจักรกล และเครื่องจักรไฟฟ้าสามารถขยายตัวได้ที่ 1.1%YOY และ 17.8%YOY ตามลำดับ
"การส่งออกเดือนกันยายนปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว แต่ทว่าปัจจัยอื่นๆ ที่กระทบการส่งออกของไทยยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกรถยนต์ไปยังอินโดนีเซียที่ลดลง เนื่องจากอินโดนีเซียมีการผลิตรถยนต์เพื่อใช้ในประเทศเองเพิ่มขึ้น หรือปัจจัยด้านราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ อีกทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยทั้งหมดนี้จะส่งผลให้การส่งออกของไทยขยายตัวเพียงเล็กน้อยในปีนี้ อย่างไรก็ดี การนำเข้ามีสัญญาณดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนทิศทางการลงทุนในประเทศที่ชัดเจนมากขึ้นตามแผนการลงทุนของภาครัฐ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น" SCB EIC ระบุ