โดยระหว่างวันเงินบาทไปทำ high ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจาก offshore เข้ามาซื้อดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นก็มีการไล่ขายกัน จึงทำให้บาทค่อยๆ เริ่มกลับมาแข็งค่าจนไปอยู่ระดับใกล้เคียงกับตอนเปิดในช่วงเช้า วันนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคือการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งตามที่ตลาดคาดคือจะมีการประกาศยกเลิก QE
"เรื่องการยกเลิก QE มันน่าจะเป็นไปตามนั้น แต่อยู่ที่ว่าถ้อยแถลงต่อจากนี้ไปจะเป็นในโทนไหนมากกว่า ว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะเร็วกว่าที่คาดไว้เดิมในช่วงกลางปีหน้าหรือไม่ รวมทั้งจับตาว่าจะมีการปรับกรอบเงินเฟ้อด้วยหรือไม่" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า หากคืนนี้ผลประชุม FOMC ออกมาและมีการพูดถึงเรื่องการปรับดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น ก็น่าจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ แต่หากผลเป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้ คือไม่มีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีหน้า เงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคก็มีโอกาสจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งแนวทางนี้มีโอกาสจะเป็นไปได้มากกว่า
นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.04 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.18 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.2728 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2735 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,562.67 เพิ่มขึ้น 6.14 จุด (+0.39%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 51,148 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 992.16 ลบ.(SET+MAI)
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง คาดว่า กระทรวงการคลังจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก การรับและการให้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ราวต้นเดือนพ.ย.เป็นอย่างเร็วที่สุด โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อยุติในอีก 4-5 ประเด็นกับทางคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
- รมว.คลัง ระบุถึงแนวทางการออกพันธบัตรเพื่อใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวว่า อาจจะช่วยบริหารจัดการหนี้ที่เกิดจากการขาดทุนจำนำข้าวได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคงต้องใช้เวลานานกว่าบริหารจัดการได้หมด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 30 ปี ซึ่งหากจะมีการบริหารจัดการภาระหนี้ด้วยการออกเป็นพันธบัตรก็จำเป็นต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสมกับสภาพตลาดด้วย
- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงเศรษฐกิจไทย และให้กระทรวงด้านเศรษฐกิจมีมาตรการดูแลประชาชนว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ จะมีมาตรการเสริมอื่นๆ นอกเหนือจากการทำโครงการขายสินค้าราคาประหยัด โดยเร็วๆ นี้ จะจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ซึ่งจะร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้า ห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ลดราคาจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ยังจะจัดโครงการธงฟ้าลดค่าครองชีพ กระจายไปในจังหวัดต่างๆ ด้วย นอกจากจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนแล้ว ยังทำให้ผู้ผลิตสินค้ามีช่องทางการขายสินค้าและระบายสินค้าออกจากสต๊อก การส่งเสริมและผลักดันการส่งออกของไทยมากขึ้น การเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA) ไทยกับประเทศต่างๆ ที่ยังค้างอยู่
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด จะประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามที่ได้มีการวางแผนไว้ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ต.ค.
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) อาจจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในปีงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจากการขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเม.ย.ได้ส่งผลประทบต่อเศรษฐกิจ โดยแหล่งข่าวคาดว่า ในการประชุมนโยบายของบีโอเจในวันศุกร์นี้ คณะกรรมการน่าจะปรับลดเป้าหมายเงินเฟ้อจากระดับปัจจุบันที่ 2% พร้อมพิจารณาแผนรับซื้อสินทรัพย์ในรายงานแนวโน้มครึ่งปีฉบับล่าสุด
- ธนาคารโลกเปิดเผยว่า การเติบโตของจีนยังคงอยู่ในระดับปานกลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายของทางการจีนที่พยายามจะสร้างสมดุลให้เศรษฐกิจจีน ภายหลังจากที่จีนได้ใช้มาตรการปฏิรูปเพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน