(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.67/69 แนวโน้มทรงตัว รอกนง.บ่ายนี้จับตาถ้อยแถลงทิศทางศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 5, 2014 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.67/69 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.67/68 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะแกว่งไม่มากนัก เพราะมีเพียงปัจจัยเดียวที่จะส่งผลต่อค่าเงิน คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แต่ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่า กนง.ยังน่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับ 2.00% ไว้ก่อน แต่คงต้องจับตาดูการให้ความเห็นต่างๆ จาก กนง.ต่อทิศทางเศรษฐกิจของประเทศว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

"เงินบาทวันนี้คงจะนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวมาก ตลาดรอดูผลประชุม กนง. แต่ก็คาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ สิ่งที่ต้องจับตาคือ comment ต่างๆ จากกรรมการ กนง.ต่อเศรษฐกิจว่าจะออกมาในรูปแบบใด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.63-32.73 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.7000 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(4 พ.ย.) อยู่ที่ 1.83390% และ THAI BAHT FIX 6M(4 พ.ย) อยู่ที่ 1.81430%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.40 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.2552 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2515 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6750 บาท/ดอลลาร์
  • "ประยุทธ์" มามาดเข้ม เล็งใช้ไม้แข็งยกมาตรา 44 กำราบ "กลุ่มป่วนสื่อ"หลังถกรวม "ครม.-คสช." ยกเหตุหวั่นทำบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
  • เคาะแล้ว! กมธ.ยกร่าง รธน.สัดส่วนของ "ครม.-คสช." จำนวน 11 คน ตามโผ "บวรศักดิ์" เป็นปธ.กมธ.ยกร่างฯ "ประยุทธ์" ยันคุณสมบัติเหมาะสม ชี้คนเป็นปธ.กมธ.ยกร่างฯไม่ใช่คนที่จะชี้ชะตาทุกอย่าง ย้ำต้องฟังเสียงประชาชนเพื่อลดความขัดแย้ง
  • รมว.คลัง เตรียมชง "ภาษีมรดก" เข้าที่ประชุม ครม.11 พ.ย.นี้ ระบุจัดเก็บกับคนที่ได้รับมรดกเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป และอาจจัดเก็บต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยเสนอ หากมีผลบังคับใช้จะเก็บย้อนหลัง 2 ปี แต่ถ้าผู้โอนมรดกเสียชีวิตก่อนไม่ต้องเสียภาษี ชี้สามารถผ่อนชำระได้ 2-3 ปี
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลการส่งออกที่ย่ำแย่ ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มสูงเกินคาดในเดือนก.ย. ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวอาจจะบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะที่ 4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐได้เพิ่มสูงขึ้น ส่วนยอดส่งออกหดตัว 1.5% แตะที่ 1.9559 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ หลังจากอุปสงค์ในตลาดหลักๆ รวมถึงจีนและยูโรโซนชะลอตัวลง ส่วนยอดการนำเข้าทรงตัวในเดือนก.ย. เนื่องจากยอดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในต่างประเทศและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ทำให้อุปสงค์ด้านสินค้าและบริการของสหรัฐอ่อนแอลง

  • คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนลงเหลือ 0.8% ในปี 2557 และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพียูโรโซนในปี 2558 ลงเหลือ 1.1% จากระดับการคาดการณ์เมื่อเดือนพ.ค.ที่คาดว่า จะขยายตัว 1.2% และ 1.7% ตามลำดับ
  • นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากมีรายงานว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ โดยเทรดเดอร์ระบุว่าความเคลื่อนไหวของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลกซึ่งมีการแข่งขันสูง รวมทั้งข่าวที่ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปค) ปรับตัวสูงขึ้น 53,000 บาร์เรล สู่ระดับ 30.974 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ