นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในประเทศให้เกิดความสมดุลและเป็นธรรมให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยลดการอุดหนุนที่จะส่งผลให้เกิดปัญหาบิดเบือนราคา ซึ่งจะพิจารณาทั้งในเรื่องของการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันและอัตราภาษีสรรพสามิต ส่วนรายละเอียดจะดำเนินการอย่างไรนั้นคงต้องรอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) พิจารณา
"ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลกับเบนซินในบ้านเราห่างกันมาก เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งด้านการบริโภคและการกลั่นก็ต้องทำให้ราคาขายปลีกมีความแตกต่างน้อยลงไป" นายพรายพล กล่าวทางสถานีโทรทัศน์เช้านี้
ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันแล้วจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินลดลงไปบ้าง เพราะปัจจุบันมีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันและจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราที่สูง โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอทานอลมากขึ้น ซึ่งรัฐมีการอุดหนุนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้มากขึ้น
"ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ลดลง และการลดภาษีสรรพสามิต" นายพรายพล กล่าว
ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่คงไม่มาก และจะปล่อยราคาลอยตัว โดยยกเลิกการตรึงราคาไว้ที่ลิตรละไม่เกิน 30 บาท เช่นเดียวกับแก๊สแอลพีจีก็จะลอยตัวเช่นกัน แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะให้ปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างไร