นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.90/91 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 32.83/84 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าเป็น High ในรอบ 1 เดือน
"เงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปทำ High แถว 32.92 แต่ไม่ผ่าน สาเหตุที่อ่อนค่าจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกต่างปรับตัวลดลง ทั้งราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับทุกสกุล โดยราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่วนทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากผลการลงประชามติของสวิตเซอร์แลนด์ในประเด็นการถือครองทองคำสำรองของธนาคารกลางสวิสระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธข้อเสนอในการเพิ่มทองคำสำรองของธนาคารกลาง"นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าค่าเงินบาทน่าจะยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Swing มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านแถวๆ 33.00 แต่รอบแรกอาจจะยังไม่ผ่านทันที
ดังนั้น จึงประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ระหว่าง 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.9250 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(28 พ.ย.) อยู่ที่ 1.88996% และ THAI BAHT FIX 6M(28 พ.ย) อยู่ที่ 1.81624%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.90 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์อยู่ที่ระดับ 118.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2440 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2443 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8160 บาท/ดอลลาร์
- ธปท.เผยแบงก์เริ่มการแข่งขันเงินฝากเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษ สะท้อนให้เห็นแนวโน้มสินเชื่อที่ดีขึ้น ระบุสินเชื่อรวมผ่านจุดต่ำสุดแล้วช่วงไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมาและล่าสุดเดือน ต.ค.เงินฝาก-สินเชื่อกระเตื้องจากเดือนก่อนอยู่ที่ 2.9% และ 5.4% ตามลำดับ แต่ยังเข้มงวดการให้สินเชื่อกับธุรกิจเอสเอ็มอี ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่หันออกหุ้นกู้มากขึ้น
- "แบงก์ชาติ" ยืนยันไม่ห่วงปัญหาเอ็นพีแอล สินเชื่อบัตรเครดิต-ส่วนบุคคลที่พุ่งเร็ว เหตุสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมน้อย อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ตัดเป็นหนี้สูญเร็วช่วยสะท้อนฐานะแท้จริง พร้อมบริหารจัดการได้เร็ว แต่ห่วงดึงการบริโภคฟื้นช้า ติงแจกคูปองช่วยผู้มีรายได้น้อย ควรทำเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น เหตุไม่ยั่งยืน
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.จะเข้าหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแผนการเดินหน้าดำเนินงานกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามนโยบายของรัฐบาลแม้ว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้มาแล้ว 3 ปีก็ตาม หาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเห็นชอบก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยตั้งเป้าหมายรับสมาชิกให้ได้ 20 ล้านราย จากแรงงานนอกระบบทั้งหมดประมาณ 35 ล้านราย
- "อารีพงศ์" เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงานทั้งหมดกำหนดแผนปฏิรูปพลังงาน ก่อนชง กพช.อนุมัติภายในเดือน ธ.ค.2557 นี้ พร้อมเล็งปรับบทบาทกระทรวงพลังงานเป็นผู้คุมกฎเข้มงวดขึ้น
- "คลัง" เล็งทำงบประมาณกลางปี 58 กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ประเมินแนวโน้มการจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย ระบุ เดือนต.ค.สามารถจัดเก็บได้สูงกว่า เป้าหมายกว่า 8 พันล้าน "วิสุทธิ์" สั่ง กรมบัญชีกลางเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน หลังพบ 2 เดือน เบิกจ่ายได้แค่ 2 หมื่นล้าน
- แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ทุกส่วนราชการติดตามการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าการลงทุนของไทยเช่น การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งนี้ตลาดคาดว่าอียูจะใช้มาตรการคิวอี
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มเงินบาทสัปดาห์นี้ (1-4 ธ.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน ตลอดจนรายงานดัชนี PMI เดือนพ.ย. ของหลายประเทศชั้นนำ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป
- สัญญาทองคำซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ร่วงลงกว่า 2% แตะที่ระดับ 1,142.91 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ หลังจากผลการลงประชามติของสวิตเซอร์แลนด์ในประเด็นการถือครองทองคำสำรองของธนาคารกลางสวิสระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธข้อเสนอในการเพิ่มทองคำสำรองของธนาคารกลาง
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 285 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ 10,660 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,154.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 30.9 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ย.ลดลงแตะ 50.3 จาก 50.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบรรยากาศทางธุรกิจยังคงซบเซา ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง