หลังจากการปรับเงินเข้ากองทุนฯ น้ำมันเบนซิน 95 เสียภาษีสรรพสามิต 5.60 บาทต่อลิตรและเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน 10.15 บาทต่อลิตร ราคาขายปลีกประมาณ 40.26 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล 95 เสียภาษีสรรพสามิต 5.04 บาทต่อลิตร เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 4.65 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกประมาณ 33.20 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล 91 เสียภาษีสรรพสามิต 5.04 บาทต่อลิตร เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2.95 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกประมาณ 31.18 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล E20 เสียภาษีสรรพสามิต 4.48 บาทต่อลิตร เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 1.20 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกประมาณ 29.88 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล E85 เสียภาษีสรรพสามิต 0.84 บาทต่อลิตร แต่กองทุนน้ำมันชดเชยให้ 8.23 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกไม่เปลี่ยนแปลงที่ 22.88 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าสถานการณ์ที่ทิศทางราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่องนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทยอยปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้มีความเป็นธรรม ดังนั้น มติการประชุม กบง.ในวันนี้จึงมีการพิจารณาถอนการอุดหนุนราคา โดยปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (LPG) ในสัดส่วน 1.03 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้สถานะกองทุนน้ำมันมีสถานะสุทธิเป็นบวกที่ประมาณ 8 พันล้านบาท และจะมีรายรับมากกว่ารายจ่าย 327 บาทต่อวัน (จากเดิมฐานะกองทุนฯ ณ วันที่ 18 พ.ค.57 ติดลบ 7,412 ล้านบาท)
พร้อมทั้ง ให้ปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในภาคขนส่ง(NGV)อีก 1 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลอยู่ที่ 11.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้ปรับเป็น 12.50 บาทต่อกิโลกรัม และราคา NGV สำหรับรถสาธารณะ ขยับเป็น 9.50 บาทต่อกิโลกรัม
ปัจจุบัน กระทรวงพลังงานมีแนวทางการช่วยเหลือ ได้แก่ 1. บัตรเครดิตพลังงาน NGV สำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถตู้ร่วม ขสมก. ในเขต กทมและปริมาณฑล จำนวน 166,216 ราย (ณ วันที่ 31 ต.ค.57) 2. บัตรส่วนลดราคาฯ NGV ได้แก่ กลุ่มรถโดยสาร มินิบัส สองแถวร่วม ขสมก. และรถโดยสาร รถตู้ร่วม บขส. จำนวน 19,075 ราย (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 57) สำหรับราคา LPG ทุกภาคสะท้อนต้นทุนราคาจัดหาเฉลี่ย ที่แท้จริงแล้ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า ในการปรับโครงสร้างราคาพลังงานครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ทั้งนี้จากการประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ พบว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศขณะนี้มีอัตราต่ำสุดในรอบ 3 ปี และไม่น่าจะมีการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าจากกลุ่มผู้ประกอบการอย่างแน่นอน นอกจากนี้สำหรับกลุ่มภาคครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย กระทรวงพลังงานจะยังคงให้ให้สิทธิ์ในการช่วยเหลือเช่นเดิม เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบสำหรับผู้มีรายได้น้อย