(เพิ่มเติม) ปธ.สมาคมธนาคารไทย คาดประชุม กนง. 17 ธ.ค.ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 15, 2014 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย คาดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ มีโอกาสที่จะมีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากเดิมอีก 0.25% ต่อปี เหลือ 1.75% ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.0% ต่อปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวเร็วขึ้น หลังสภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศขยายตัวค่อนข้างช้า ประกอบกับช่วงนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้แรงกดดันที่มีต่อเงินเฟ้อลดลง
"ผมมองว่ามีโอกาสที่ กนง.จะลดดอกเบี้ย 0.25% มาที่ 1.75% เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจโตเร็วขึ้น" นายบุญทักษ์ กล่าว

ทั้งนี้ มองว่าภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่เดิมเราคิดว่าจะปรับเป็นรูป V แต่ความจริงเป็น V แบบ Slope เตี้ยมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่าสนใจคือการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาแรงเป็นการสะท้อนว่าภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจโลก

นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปีค.ศ. 2008 หรือ ปีพ.ศ.2551 เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวขึ้น แต่เนื่องจากมีสภาพคล่องในโลกเยอะมาก ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาคนเลยคิดว่าเศรษฐกิจโลกดีขึ้นแล้ว แต่การที่ราคาน้ำมันตกมาแรง สะท้อนว่าความต้องการน้ำมันไม่ได้เพิ่มขึ้นและเป็นตัวสะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง...

"ถือเป็นความท้าทายว่าเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นอย่างไร ประเทศไทยจะเผชิญสิ่งต่างเหล่านี้ได้อย่างไร แต่ผมเชื่อว่าเมืองไทยยังมีความสามารถในการแข่งขันเยอะ ประกอบกับ AEC จะช่วยให้เมืองได้เปรียบ ความสามารถในการแข่งขันในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่กฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจการลงทุน เรื่องโลจิสติก เรื่องการศึกษา เรื่องแรงงานที่มีคุณภาพ เราต้องทำในระยะอันสั้นนี้"

อย่างไรก็ดี ความท้าทายของธุรกิจธนาคารสะท้อนกับสภาะวเศรษฐกิจอยู่แล้ว ถ้าเศรษฐกิจดีธุรกิจธนาคารก็ดี แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ธนาคารต้องพัฒนาประสิทธิภาพให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจปี 2558 น่าจะโตได้ 3-4% แต่อาจจะเริ่มโตในไตรมาส 2 ธนาคารเองยังมีสภาพคล่องอยู่ แต่ต้องคอยระวังเพราะเฟดอาจจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะปีหน้าหรือในปีถัดไป

"สิ่งที่ต้องระวังตอนนี้คือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นปกติก่อนที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยจริงๆ อัตราแลกเปลี่ยนจะผันผวนมากจนกระทั่งขึ้นดอกเบี้ยจริงๆ ซึ่งผู้ประกอบการต้องบริหารความเสี่ยง และต้องเตรียมตัวในช่วงที่ภาวะสภาพคล่องลดลง"ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าว

สำหรับผลการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่น สะท้อนว่ารัฐบาลชินโสะ อาเบะ คงจะสามารถดำเนินการปฏิรูปประเทศได้อย่างมั่นคงหลังชนะการเลือกตั้งเป็นเอกฉันท์ ซึ่งเศรษฐกิจญี่ปุ่นสำคัฐเป็นอันดับ 3 ของโลก และการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นน่าจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ