นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาด 32.95/96 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.97/99 บาท/ดอลลาร์
ทิศทางเงินบาทวันนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวานตลาดหุ้นไทยเหวี่ยงค่อนข้างมาก โดยร่วงไปกว่า 130 จุดไปทำ low สุดในรอบหลายเดือนที่ 1,375 จุด และได้รีบาวน์ขึ้นมาปิด 1,478 จุด เหลือลบประมาณ 36 จุด จึงส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าแรง แต่ด้านบนเหนือ 33 บาท/ดอลลาร์ขึ้นไป ยังมีแนวต้านอยู่อีกมาก จากทั้งผู้ส่งออกรอขายดอลลาร์ซึ่งถือเป็นแนวต้านสำคัญ และขึ้นไปไม่ผ่าน
"เงินบาทวิ่งผิดไปจากค่าเงินสกุลอื่นที่ค่อนข้างนิ่ง หนักไปทางทรงๆ รอประชุม FOMC เป็นปัจจัยสำคัญ แต่บาทดีดขึ้นมาก่อนจากปัจจัยข่าวในประเทศ คิดว่าวันนี้มีโอกาสขึ้นไป แต่คงไม่ทะลุ high เดิม" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.90-33.05 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.0000 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(15 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.85933% และ THAI BAHT FIX 6M(15 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.80145%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 118.60 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.2440 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2420 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8150 บาท/ดอลลาร์
- นายกฯชูยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่บีโอไอขับเคลื่อน ศก.ในอนาคต ลั่นปี 2558 ศก.โตได้ 3.5-4.5% หลังตัวเลขลงทุน ยอดนักท่องเที่ยวยังดี หม่อมอุ๋ยรับ GDP ไทยตกต่ำต่อเนื่องจากอดีตโต 9.25% ไม่เห็นแล้วปรับใหม่ดึงต่างชาติตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ
- ผู้จัดการเอ็มเอไอ รับปีหน้าปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า โดยเฉพาะครึ่งปีหลังมีปัจจัยเสี่ยง ที่ยังมองไม่เห็น เร่งนำบริษัทจดทะเบียนให้ทันครึ่งปีแรก ชี้หลังใช้มาตรการคุมหุ้นร้อน มีหุ้นเสี่ยงเข้าเกณฑ์แคชบาลานซ์มากกว่าครึ่ง รับหุ้นขนาดใหญ่ดันพีอีตลาดพุ่ง
- สมาคมธนาคารไทยยื่นแบงก์ชาติเสนอแก้ 2 ประเด็น พ.ร.บ.ค้ำฯภายในสัปดาห์นี้ "ไม่ต้องแจ้งผู้ค้ำกรณียืดหนี้-ขายทรัพย์ผ่านกรมบังคับคดี" ประเมินเศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 3-4% เศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง คาดกนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% กระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้มีการปรับตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน
- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ลดลง 1 จุด แตะที่ระดับ 57 ในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดและบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังขาดความต่อเนื่อง
- นักลงทุนต่างกำลังรอดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันอังคารและพุธนี้ เพื่อประเมินภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด
- กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 22.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 1.036 หมื่นล้านดอลลาร์
- ธนาคารกลางรัสเซีย ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 17% จากระดับ 10.5% โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัดส่วนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการร่วงลงของสกุลเงินรูเบิลและเพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกของนักลงทุน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะไม่ปรับลดเพดานการผลิตเพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 61.06 ดอลลาร์/บาร์เรล