สบน.เผยผลบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพ.ย.57

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 19, 2014 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2557 พบว่า การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล ในผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาลเดือนพฤศจิกายน 2557 กระทรวงการคลังได้กู้เงิน และเบิกจ่ายเงินกู้ ดังนี้ 1.การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 9,970 ล้านบาท 2. การเบิกจ่ายเงินกู้ต่อให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จำนวน 37.82 ล้านบาท รวมถึงการเบิกจ่ายเงินกู้ต่อให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 13.10 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 82.30 ล้านบาท 3. การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 960 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้จากธนาคารโลก เพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 วงเงิน 3,000 ล้านบาท

ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล ในเดือนพฤศจิกายน 2557 มีดังนี้ 1.พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ พ.ศ. 2548 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 ที่ครบกำหนด จำนวน 36,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น (1) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ 9,000 ล้านบาท และ (2) สัญญาเงินกู้ระยะสั้น 27,000 ล้านบาท

2.การทำธุรกรรมแลกพันธบัตร (Bond Switching) โดยกระทรวงการคลังดำเนินการแลกพันธบัตรที่ออกภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 รุ่น LB155A จำนวน 76,235.20 ล้านบาท กับพันธบัตรรัฐบาลที่เป็น Benchmark 4 รุ่น จำนวน 71,017 ล้านบาท ซึ่งการทำธุรกรรมครั้งนี้ทำให้ยอดหนี้คงค้างของพันธบัตรรัฐบาลลดลง 5,218.02 ล้านบาท

3.การปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 3,778.61 ล้านบาท โดยวิธีการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 3,778.60 ล้านบาท และยืมเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 3) จำนวน 5,796 บาท

ทั้งนี้ การรายงานการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลจะไม่รวมการ Roll over ตั๋วเงินคลัง เนื่องจากการกู้เงินโดยการออกตั๋วเงินคลังเป็นการกู้ในรูปเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอกับการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการกู้เงินในขณะหนึ่งจะไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดย ณ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 มีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ-จ่ายของรัฐบาล จำนวน 90,500 ล้านบาท และกระทรวงการคลังจะทำการ Roll over ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดตามอายุของตั๋วเงินคลังในแต่ละรุ่น

อย่างไรก็ดี สำหรับการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2557 พบว่าในเดือนนี้ไม่มีการกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding)

ส่วนการชำระหนี้ของรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2557 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ จำนวน 17,044.09 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1.การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณ เป็นจำนวน 14,901.85 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้

  • ชำระหนี้ในประเทศ 14,706.01 ล้านบาท แบ่งเป็นต้นเงิน 10,000 ล้านบาท และดอกเบี้ย 4,706.01 ล้านบาท
  • ชำระหนี้ต่างประเทศ 20.84 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าดอกเบี้ย 20.39 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 0.45 ล้านบาท
  • ชำระต้นเงินกู้ภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ จำนวน 175 ล้านบาท ที่กระทรวงการคลังกู้มาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

2.การชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น เป็นจำนวน 2,142.24 ล้านบาท ดังนี้

  • การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) จำนวน 1,778.53 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2
  • การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 363.71 ล้านบาท แบ่งเป็นการชำระต้นเงิน 27.91 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 1 ที่ได้รับจากการโอนสินทรัพย์คงเหลือในบัญชีผลประโยชน์ รวมถึงการชำระดอกเบี้ยจำนวน 335.80 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2

สำหรับการบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ ในเดือนพฤศจิกายน 2557 รัฐวิสาหกิจไม่มีการกู้เงินในประเทศ ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ ในเดือนพฤศจิกายน 2557 รัฐวิสาหกิจได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 51,430 ล้านบาท ขณะที่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่มีการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ