กกร.จี้พาณิชย์นัดถกผู้ขนส่งสินค้าทางเรือกำหนดค่า THC ให้เหมาะสมหลังน้ำมันโลกลด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 24, 2014 13:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ระบุว่า ตามที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง แต่บริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีการปรับขึ้นค่าระวางขนส่งสินค้าและค่าบริการต่างๆ ของสายเรือนั้น คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) จึงมีมติให้จัดตั้งคณะทำงานฯ เพื่อหารือเรื่องปัญหาสายเรือปรับขึ้นค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย, สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอ, สมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทย และสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย

โดยได้มีการหารือใน 3 ประเด็น คือ 1.การปรับขึ้นค่า Terminal Handling Charge (THC) ของสายเรือ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ 6 สายเรือได้มีการประกาศปรับขึ้นค่า THC สำหรับตู้สินค้าส่งออก โดยจะมีผลเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตู้ขนาด 20 ฟุต จากอัตราเดิม 2,600 บาท เป็น 4,400 บาท และตู้ขนาด 40 ฟุต จากอัตราเดิม 3,900 บาท เป็น 6,800 บาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งออกสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้นถึง 7,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วนั้น ค่า THC เป็นค่าบริการที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นผู้เก็บค่าใช้จ่าย เป็น Cost Recovery Item โดยกำหนดค่าบริการจากมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งผู้ให้บริการจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ และจะเรียกเก็บจากผู้ประกอบการรวมอยู่ในค่าบริการขนส่งสินค้า แต่ทางผู้ให้บริการได้เตรียมปรับขึ้นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดยที่ไม่มีส่วนของต้นทุนของสายเรือเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

2.ค่าระวางการขนส่งสินค้าทางเรือ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สะท้อนถึงต้นทุนของการเดินเรือที่ต้องลดลง แต่สายเดินเรือไม่มีการปรับลดค่าระวางการขนส่งสินค้าให้ลดลง และยังมีการเรียกเก็บค่าบริการ Bunker Adjustment Factor (BAF) อยู่เช่นเดิม ซึ่งเป็นค่าชดเชยภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเกิดวิกฤติการณ์ด้านน้ำมัน ซึ่งทำให้บริษัทเรือมีต้นทุนที่สูงขึ้นกว่าต้นทุนปกติก็จะมีการเรียกเก็บค่า BAF

3.การปรับแก้ไข (ร่าง) พ.ร.บ.ศุลกากร มีข้อกังวลในส่วนของ Freight Forwarder ที่จะทำหน้าที่ติดต่อแจ้งรายละเอียดสินค้าได้โดยตรงต่อกรมศุลกากร ในขณะนี้ไม่มีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาบริษัท Freight Forwarder ปิดบริษัทหนีได้โดยง่ายเมื่อเกิดปัญหา ดังนั้นควรมีการควบคุมการเข้ามาประกอบการของ Freight Forwarder โดยกำหนดความรับผิดชอบของ Freight Forwarder ให้ชัดเจน

ดังนั้น คณะทำงานฯ จึงได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการปรับขึ้นค่า THC ของสายเรือ โดยจะขอให้กรมการค้าภายในจัดประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาขึ้นค่า THC ของสายเรือต่างๆ ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ให้ทันก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราค่า THC เพื่อมิให้ผู้ประกอบการที่ใช้บริการเกิดความสับสน และจะกำหนดให้สายเรือเรียกเก็บค่า THC ในอัตราเดียวกับที่เรียกเก็บในปัจจุบันให้มีการพิจารณาค่าระวางการขนส่งสินค้าของสายเรือ จากต้นทุนค่าน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างเหมาะสม โดยใช้ราคาน้ำมันกำหนดค่าระวางตามเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนการปรับแก้ไข(ร่าง)พ.ร.บ.ศุลกากร ควรให้ภาคเอกชนได้ร่วมกันให้ความเห็นต่อ สนช.พิจารณา ก่อนที่จะเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ซึ่งหากที่ประชุม กกร.เห็นควรให้มีการเสนอต่อ กรอ.ก็จะนำเสนอเป็นประเด็นเข้าที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ(กรอ.)ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ