สำหรับหลักเกณฑ์ในเบื้องต้นนั้น ผู้ที่สนใจขอจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์จะต้องเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท โดยจะเป็นการปล่อยกู้ให้กับรายย่อยไม่เกินรายละ 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อเดือน หรือไม่เกิน 36% ต่อปี ซึ่งเป็นการปล่อยกู้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและลดการกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีการคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก
ฑ์สำหรับผู้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ เพื่อจะได้มีการจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์ซึ่งเป็นไปตามมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนของรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ โดยจากนี้จะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ไปยกร่างหลักเกณฑ์
คลังจ่อเปิดไลเซนส์นาโนไฟแนนซ์
Source - ASTV ผู้จัดการรายวัน (Th)
Monday, December 29, 2014 05:13
40808 XTHAI XECON XCORP DAS V%PAPERL P%ASMD
ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเตรียมประกาศหลักเกณฑ์ผู้ยื่นขอใบอนุญาตทำธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ เผยผู้ขอต้องจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด ทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมเปิดทางแบงก์ยื่นได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งบริษัทใหม่
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงประกาศกระทรวงการคลังในเรื่องนาโนไฟแนนซ์ว่า คล้ายกับประกาศเรื่องสินเชื่อส่วนบุคคล แต่จะต่างกันที่วงเงินการให้สินเชื่อต้องไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย การพิจารณาสินเชื่อไม่ต้องบังคับดูรายได้ของผู้ขอกู้ และวัตถุประสงค์การให้สินเชื่อว่าต้องเป็นการนำไปประกอบอาชีพ และคิดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 36% ต่อปี หรือ 3% ต่อเดือน
โดยประกาศฉบับนี้ไม่ได้มีข้อห้ามสถาบันการเงินขอประกอบธุรกิจ ซึ่งหากธนาคารพาณิชย์สนใจ ก็ไม่จำเป็นต้องตั้งบริษัทใหม่ เหมือนกับกรณีการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล เพียงแต่ต้องขอใบอนุญาตเพิ่มอีกใบเท่านั้น หลักเกณฑ์เงื่อนไขผู้สมัครต้องจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 50 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ คาดว่าประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ) พ.ศ. จะออกประกาศได้ภายในสัปดาห์นี้ หรือหลังจากนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง พิจารณาแล้วเสร็จ ผู้สนใจสามารถยื่นขอใบอนุญาตได้ประมาณปีใหม่นี้
สำหรับหลักการของนาโนไฟแนนซ์ตามแนวคิดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หมายถึงการให้บริการเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินของกลุ่มคนรากหญ้า เพื่อให้ตัวผู้กู้มีเงินทุน เพื่อประกอบกิจการเลี้ยงชีพต่อไปโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบมากเกินไป โดยจำนวนไม่น้อยของผู้กู้กลุ่มนี้จะผ่านการกู้ยืมเจ้าหนี้นอกระบบ ฉะนั้น การดึงเจ้าหนี้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างถูกต้องเป็นการแก้ไขปัญหาอีกหนึ่งวิธี ขณะที่คนกู้อีกกลุ่มหนึ่งที่มีข้อจำกัดมากสามารถกู้ยืมเงินไปใช้จ่ายในยามจำเป็นได้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย
นอกจากนี้ ในอีกด้านหนึ่งของบริการนาโนไฟแนนซ์ยังส่งผลให้เศรษฐกิจไทยกลับมาศึกคัก เมื่อเกิดการปล่อยกู้ให้แก่กลุ่มคนรากหญ้าไปทำธุรกิจเหมือนกับการต่อยอดหลายภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าไปได้ด้วยดี ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอีกนโยบายหนึ่ง--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน