นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.96/97 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 32.92/93 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 32.92 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 32.97 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค
"ขยับอ่อนค่าช่วงท้ายตลาดตามภูมิภาค ตลาดค่อนข้างบาง อาจมี flow เข้ามาด้วย" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.92-33.02 บาท/ดอลลาร์
สำหรับ THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.9225 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.52 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2190 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2188 ดอลลาร์/ยูโร
- ตลาดหุ้นไทยท้ายภาคบ่ายร่วงแรงไปกว่า 10 จุด ตามแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ขณะที่ไม่มีแรงซื้อเข้ามารับในช่วงเข้าใกล้วันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเมื่อเวลา 16.09 น.ดัชนีอยู่ที่ 1,499.84 จุด ลดลง 10.57 จุด(-0.70%)
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.57 มีสัญญาณชะลอตัว เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนยังไม่ฟื้นตัว การบริโภคเอกชนยังนิ่ง และการท่องเที่ยวอ่อนแรงขยายตัวได้น้อยกว่าเดือนที่ผ่านมา ขณะที่การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวได้เล็กน้อย 0.6% การจัดเก็บภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ติดลบ 12.6% จากเดือนก่อนหน้า ยอดขายปูนซิเมนต์ติดลบ 8.5% จากเดือนก่อนหน้า อละยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ติดลบ 17.4% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่การส่งออกติดลบ 1.0% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้เป็นเดือนที่ติดต่อกันที่ 2.5% แต่ขยายตัวได้น้อยกว่าเดือนก่อน
- นายหยาง ชวนตัง รมว.คมนาคมของจีน เผยยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวรด้านระบบขนส่งพื้นฐานของจีน เช่น ถนน ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน และทางน้ำในปีนี้จะมีมูลค่าแตะ 2.5 ล้านล้านหยวน(4.09 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามแผนสร้างเสถียรภาพในการขยายตัวของเศรษฐกิจผ่านการเร่งการลงทุนด้านการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน
- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้หลังมีรายงานว่าธนาคารกลางจีนได้ยกเว้นให้ธนาคารต่างๆ ไม่ต้องกันเงินสำรองหรือ RR ในกรณีเป็นเงินฝากของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีแนวโน้มจะช่วยกระตุ้นสภาพคล่องในอนาคตอันใกล้ โดยดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 423.84 จุด หรือ 1.82% ปิดวันนี้ที่ 23,773.18 จุด นอกจากนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับกฎระเบียบเกี่ยวกับการคำนวณเงินฝากของภาคธนาคาร ซึ่งจะเริ่มในปีหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเม็ดเงินสำหรับปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ
- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น 10.41 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 3,168.02 จุด แต่ดัชนีตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นปรับตัวลง 0.21% ปิดที่ 10,780.40 จุด โดยตลาดหุ้นจีนได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับกฎระเบียบเกี่ยวกับการคำนวณเงินฝากของภาคธนาคารซึ่งจะเริ่มในปีหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเม็ดเงินสำหรับปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ
- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วง 1.04% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล(ex-dividend) ขณะที่เงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้(KOSPI) ปรับตัวลง 20.30 จุด ปิดที่ 1,927.86 จุด มีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 239.4 ล้านหุ้น มูลค่า 3.26 ล้านล้านวอน(2.97 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 544 ต่อ 266
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดปรับตัวลงในวันนี้ จากแรงซื้ออันเนื่องมาจากการปรับลงของตลาดหุ้นโตเกียว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 336 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.320% ลดลง 0.005% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 0.08 จุด สู่ระดับ 147.77 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า