วันนี้เงินบาทยังแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของยูโรโซนที่ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.57 ปรากฎกว่าออกมาติดลบ 0.2% และเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 5 ปี ซึ่งทำให้คาดว่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวแคบๆ โดยอยู่ในกรอบ 32.85 - 33.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.82/83 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.08/11 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1866/1868 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1875/1877 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,500.75 จุด เพิ่มขึ้น 23.17 จุด, +1.57%
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เผยผลประชุมร่วม 4 หน่วยด้านเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 วานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ขอให้หน่วยงานต่างๆ กลับไปทบทวนตัวเลขงบประมาณใน 2 ประเด็น คือ 1.งบรายได้ที่ยังเสนอต่ำเกินไป เนื่องจากมีการปรับขึ้นภาษีหลายตัว เช่น ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน น่าจะทำให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้น และ 2.การกำหนดงบชำระหนี้โครงการรับจำนำข้าวที่ต้องปรับเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิม เนื่องจากไม่ต้องการให้ต่างชาติมองว่ารัฐบาลไทยหมกหนี้จำนำข้าว
ส่วนงบลงทุนและงบรายจ่ายประจำของปีงบประมาณ 2559 นั้นได้จัดทำไว้หมดแล้ว และมีแนวโน้มที่จะสูงกว่าปีงบประมาณ 2558 ซึ่งอยู่ที่ 2.575 ล้านล้านบาท เพราะต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นอาจจะต้องจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลสูงถึง 3 แสนล้านบาท โดยมีสมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2558 ไว้ที่ 4% ขณะที่ปี 49 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวราว 4.2%
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.57 อยู่ที่ 81.1 จาก 79.4 ในเดือน พ.ย.57 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 18 เดือน หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2%, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง, การจัดงานลดราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศช่วยทำให้เกิดการตื่นตัวในการจับจ่ายใช้สอย ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มมีสัญญาณเป็นขาขึ้น และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างเด่นชัดตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุกรณีที่ ครม.อนุมัติกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ที่อิงกับเงินเฟ้อทั่วไป(Headline Inflation) ด้วยการกำหนดค่าเฉลี่ยรายปีที่ 2.5% และมีกรอบการเคลื่อนไหวขึ้นลง(+/-) ไม่เกิน 1.5% ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารกลางหลายประเทศ มีความเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน และเอื้อต่อเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 50 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,230 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,216.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.42 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- สำนักงานแรงงานของเยอรมนี เปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือนธ.ค.ลดลง 27,000 ราย แตะ 2.841 ล้านราย ขณะที่อัตราว่างงานหดตัวแตะ 6.5% ทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ จำนวนคนว่างงานเดือนธ.ค.57 ลดลงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก โดยส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 5,000 รายเท่านั้น
- ออสเตรเลียน อินดัสตรี กรุ๊ป(Ai Group) เผยภาคบริการของออสเตรเลียมีอัตราการเติบโตชะลอตัวช้าลงในเดือน ธ.ค.57 หลังอยู่ในภาวะย่ำแย่อย่างมากเป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยดัชนีฯ เพิ่มขึ้น 3.7 จุด สู่ระดับ 47.5 แต่ถึงแม้ดัชนีฯ จะปรับตัวขึ้น แต่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม
- กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ เผยมียอดเกินดุลการค้าในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนและวัตถุดิบด้านอุตสาหกรรมสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยยอดเกินดุลการค้าในปี 57 อยู่ที่ระดับ 1.079 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกของอุตสาหกรรมดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อน แตะที่ 2.76 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2557 ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.6% แตะที่ 1.681 แสนล้านดอลลาร์