แหล่งข่าวจาก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานาย
ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้หารือกับนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ถึงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ
เกษตรกรให้สอดคล้องตามความเป็นจริง โดยมีการพูดคุยถึงการกำหนดวงเงินช่วยเหลือตามมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(
GDP)ภาคเกษตร เช่น เงินงบประมาณในปี2558 สำหรับช่วยเหลือภาคเกษตรควรอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท จากที่มีอยู่ 65,000 ล้านบาท
"กระทรวงการคลังควรจัดสรรเงินเพิ่มอีกประมาณ 135,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับช่วยเหลือเกษตรกรให้เป็นมาตรฐาน และกระทรวงการคลังต้องจัดสรรงบประมาณมาให้เพิ่มเติม คาดว่าจะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือน ม.ค.นี้ ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสนช. และมีผลบังคับใช้ประมาณเดือน เม.ย.นี้" แหล่งข่าวระบุ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับงบประมาณในการช่วยเหลือเกษตรกรที่จะขอเพิ่มเติมครั้งนี้ รัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงไม่ได้ต้องการนำไปทำประชานิยม และไม่ได้นำเงินไปอุดหนุนด้านราคา แต่จะเข้าไปส่งเสริมและพยุงรายได้ของเกษตรกร ตลอดจนสวัสดิการอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น การประกันความเสียหายพืชผลที่รัฐต้องค้ำประกันส่วนหนึ่ง เพราะภาคเอกชนคงจะไม่ดำเนินการ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะพืชไร่
"ถ้าเงินจำนวนนี้เข้าถึงเกษตรกรก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคของประเทศในภาพรวมได้ เพราะภาคเกษตรเป็นภาคเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีคนอยู่จำนวนมาก และสิ่งที่สำคัญกว่าการแก้ไขด้านราคา คือการดูที่รายได้ของเกษตรกรว่าเพียงพอที่จะทำให้ดำรงชีพได้อย่างไม่เดือดร้อนหรือไม่" แหล่งข่าวกล่าว
อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]