นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.88/90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.83/85 บาท/ดอลลาร์
ช่วงเย็นนี้เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า ซึ่งเป็นผลจาก fund flow ทั่วๆ ไป ไม่ได้มาจากปัจจัยใดเป็นสำคัญ โดยมองว่าพรุ่งนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก
"อ่อนค่าลงเล็กน้อยไม่มีประเด็นสำคัญมาก แค่กระแส fund flow การทำธุรกรรมทั่วไป มีการโอนออกเยอะวันนี้ เลยกดดันบาทให้อ่อนค่าลง เพราะกระแสลูกค้าที่ยังต้องจ่ายดอลลาร์ยังมีมาเรื่อยๆ มี fund flow เข้ามามากหน่อย ส่วนดอลลาร์ยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.85-32.95 บาท/ดอลลาร์ แต่พรุ่งนี้อาจเห็นความผันผวนมากขึ้น เนื่องจากวันนี้ค่าเงินเยนและค่าเงินยูโรสวนทางกัน ดังนั้นทิศทางของค่าเงินอาจจะผันผวนได้ในช่วงนี้
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 119.20/26 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 118.40/45 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1805/1812 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1855/1860 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,531.21 เพิ่มขึ้น 1.79 จุด (+0.12%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 42,288 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,371.96 ลบ.(SET+MAI)
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) คาดปี 58 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 28.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.77% จากปี 57 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.29 ล้านล้านบาท จากในประเทศ 8 แสนล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีน ในขณะที่การหดตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในปี 58
- นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการเสนอให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในภาวะชะลอตัว คือ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในทุกส่วนให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะงบที่ค้างท่อ งบซ่อมบำรุง งบโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ประมาณ 4% แต่ภาคเอกชนมองว่า อาจขยายตัวได้ 3.5% เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวดีนัก
- ศูนย์วิจัยทองคำ มองแนวโน้มราคาทองคำในช่วงปี 58 ช่วงต้นปีราคาทองมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจต่างประเทศ โดยกรีซที่เกิดปัญหาด้านการเมืองขึ้นจนอาจกระทบต่อนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ต้องติดตามผลการเลือกตั้งวันที่ 25 ม.ค.นี้ เพราะหากปัญหาในกรีซไม่คลี่คลายก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นในยุโรปที่มีปัญหาอยู่ทั้งโปรตุเกส และสเปน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้นขึ้น 110 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,330 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,225.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.90 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลงสู่ระดับ BBB- จาก BBB ซึ่งทำให้รัสเซียอยู่สูงกว่าระดับขยะเพียง 1 ขั้นเท่านั้น ส่วนแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือเป็นเชิงลบ ซึ่งหมายความว่าฟิทช์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงได้อีกในระยะกลางถึงระยะยาว
ทั้งนี้ ฟิทช์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลงอีก หากเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงนั้นทำให้เกิดภาวะผันผวนในภาคการเงินจนทำให้รัฐบาลรัสเซียต้องออกมาให้การสนับสนุน หรือหากราคาน้ำมันยังคงอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2559
- โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 58 ลง โดยได้ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ลงสู่ระดับ 47.15 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์เดิมที่ 73.75 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 59 ลงเหลือ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล