เงินบาทปิด 32.75/77 ทรงตัวตามภูมิภาค มองกรอบพรุ่งนี้ 32.70-32.85

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 15, 2015 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.76 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแกว่งในกรอบแคบๆ ไม่ต่างจากช่วงเช้ามากนักที่เปิด 32.74/76 การเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้มาจากผลของ flow ต่างชาติ แต่ไม่ได้มีผลจากปัจจัยใดๆ เพราะช่วงนี้ตลาดยังนิ่งๆ รอดูการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่งที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ, ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น

นักบริหารเงิน ระบุว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวตามทิศทางของเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาค โดยคาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 - 32.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.22/24 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.69 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1690 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1770 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,523.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด, +0.01% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 38,668 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,130.86 ลบ.(SET+MAI)
  • น.ส.ปารีณา พ่วงศิริ ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) กล่าวในงานสัมนา "จับตาภาวะเศรษฐกิจปีมะแม 2558 ทั้งตลาดทุน ค่าเงิน และหุ้นเด็ด" โดยคาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP) ในปีนี้จะอยู่ที่ 3.5-4% ซึ่งเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ไปจนถึงสิ้นปี 58 แม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีนี้ โดยมองว่าการที่ธปท.คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.5-4%
  • นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ในปี 2558 เศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในระดับ 4% ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะสามารถสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ โดยในปี 58 นี้ ได้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไว้ที่ 7% โดยสินเชื่อธุรกิจที่จะขยายตัวได้ดี คือ ก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค
  • แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกลางญีปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งจะเปิดฉากในวันอังคารหน้านั้น คาดว่าคณะกรรมการนโยบายของบีโอเจจะทวนคาดการณ์ดัชนี CPI พื้นฐานของปีงบประมาณ 2558 ซึ่งปัจจุบันประเมินไว้ว่าจะขยายตัว 1.7% โดยการปรับทวนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินราคาและคาดการณ์อย่างเต็มรูปแบบของบีโอเจซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 3 ปีจนถึงเดือนมี.ค. 2560
  • ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book) ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงมีการขยายตัวในช่วงกลางเดือนพ.ย.-ปลายเดือนธ.ค. แต่ภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันบางส่วนมีสัญญาณชะลอตัว อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ดี คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC) มีกำหนดจะประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 27-28 ม.ค.
  • ธนาคารกลางอินเดียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% แตะที่ 7.75% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศเริ่มชะลอตัวลง
  • สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคธนาคารและตลาดการเงิน โดยสภาผู้แทนฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 271 ต่อ 154 เสียง กฎหมายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายการเงิน"ดอดด์-แฟรงค์" ปี 2553 ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักออกไปจนถึงปี 2562

ทั้งนี้ "กฎหมายดอดด์-แฟรงค์" จะเพิ่มอำนาจให้กับรัฐบาลในการกำกับดูแลธนาคารและตลาดการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติการเงินและนำเอาเงินภาษีประชาชนไปช่วยเหลือภาคธนาคารอีกรอบ

  • ธนาคารกลางจีน จะปรับกฎระเบียบเกี่ยวกับการคำนวณเงินฝากของภาคธนาคาร โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มเม็ดเงินสำหรับปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่กำลังชะลอตัว

นายเจิ้ง สงเฉิง หัวหน้าฝ่ายสถิติประจำแบงก์ชาติจีน เปิดเผยว่า จีนจะเริ่มคำนวณเงินฝากจากสถาบันที่ไม่ได้เปิดรับเงินฝาก โดยก่อนหน้านี้ เงินฝากในลักษณะดังกล่าวถูกจัดให้อยู่ในประเภทเงินฝากระหว่างธนาคาร และไม่สามารถนำไปคำนวณอัตราสินเชื่อต่อเงินฝาก(LDR) ได้


แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ