ปัจจัยหลักยังมาจากเรื่องธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ด้วยการยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร ที่ 1.20 ฟรังก์สวิส พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ -0.75% จาก -0.25%
นอกจากนี้ วันนี้ต่างชาติเทขายดอลลาร์ออกมาและซื้อบาทค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทน่าจะยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันจันทร์ 32.50 - 32.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.40 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 116.17 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1632 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1627 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,517.74 จุด ลดลง 5.64 จุด, -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 37,024.71 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,897.10 ลบ.(SET+MAI)
- สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ SMEs เดือนพ.ย.57 พบว่าภาพรวมยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวผลจากราคาสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ยางพารา ข้าว ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลต่อความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐชะลอตัวซึ่งในเดือน พ.ย.มีการเบิกจ่ายจำนวน 205.8 พันล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยบวกอยู่ที่ขณะที่สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวน 2.44 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 นอกจากนี้ระดับราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
- แหล่งข่าวจากกลุ่ม G7 เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับประเด็นการคว่ำบาตรรัสเซียอันเป็นผลจากวิกฤติยูเครน โดยสหรัฐได้เรียกร้องให้ดำเนินการคว่ำบาตรต่อไป ขณะที่ญี่ปุ่นและเยอรมนีชี้ว่าควรเปิดการเจรจาร่วมกับรัสเซีย
- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยสภาวิเทศสัมพันธ์ของสหรัฐ ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ แม้จะได้รับปัจจัยบวกหลายประการ เช่น การลดลงของราคาน้ำมันและเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นก็ตาม
การปรับตัวลงของราคาน้ำมันและการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ไม่ใช่ยาขนานเอกที่สามารถเยียวยาความอ่อนแอที่หยั่งรากลึกของภาคส่วนอื่นๆได้ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า มีหลายประเทศมากเกินไปที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากผลพวงของวิกฤตการเงิน ซึ่งรวมถึงหนี้และอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 270 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,630 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,258.05 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 29.21 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.225% เป็นช่วงสั้นๆวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรมากขึ้น หลังธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดด้วยการยกเลิกเพดานอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร