นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.58/59 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.52/54 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวัน Low สุดที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ แล้วก็มีแรงรับซื้อ จนมาปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.58/59 บาท/ดอลลาร์
"เป็นการกลับมาซื้อหลังลงต่อเนื่องมา 4-5 วัน วันนี้เรียกว่าเด้งตามเทคนิคมากกว่า Importer ก็เล็งๆอยู่แถวนี้นานแล้ว เพราะไปแช่อยู่ด้านบนหลายเดือนแล้ว...ยังไม่มีปัจจัย หรือข่าวสำคัญ ขณะที่ส่วนใหญ่รอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)" นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับวันพรุ่งนี้ คาดว่าเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.20 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 117.23 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1608 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1562 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,535.37 จุด เพิ่มขึ้น 17.63 จุด, +1.16% มูลค่าการซื้อขาย 36,102.65 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,233.19 ลบ.(SET+MAI)
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยเรื่อง"Thai Economy 2015"ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4% จากการเบิกจ่ายที่เป็นไปตามเป้าหมาย การลงทุนภาครัฐเดินหน้าได้ต่อเนื่อง และภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
- นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ในฐานะอดีตรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่า แนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้น่าจะเติบโตได้ 4% เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่หน่วยงานภาครัฐประมาณการ ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้มาจากการลงทุนของภาครัฐ ในเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลดลงที่จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อของประชาชนในประเทศให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในประเทศน่าจะปรับลดลงอีกเพื่อให้ใกล้เคียงกับต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยในเรื่องอำนาจซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตลาดเงินและตลาดทุนในปีนี้มีแนวโน้มผันผวนค่อนข้างสูง จากเศรษฐกิจบางประเทศยังมีความเปราะบาง ค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการประกาศลอยตัวของค่าเงินฟรังค์สวิตเซอร์แลนด์ และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรปอาจตัดสินใจทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE) ซึ่งนักลงทุนจะต้องติดตามปัจจัยต่างๆอย่างใกล้ชิด
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.200% หลังจากการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ของพันธบัตรให้สูงขึ้น
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นในเดือนธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การตัดสินใจเลื่อนระยะเวลาการปรับขึ้นภาษีการบริโภคของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ สามารถคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
- รัฐบาลจีนประกาศอนุมัติให้บริษัทเอกชนสามารถขายตราสารหนี้ได้มากขึ้น ภายใต้การควบคุมอย่างเหมาะสม เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ จะแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมาตรการที่จะได้มีการนำเสนอในระหว่างการแถลงนโยบายครั้งนี้ เป็นประเด็นเรื่องการปฏิรูปภาษีในด้านต่างๆ