พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการติดตามตามสถานการณ์หลัง
ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(
QE )ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เรียก
ธนาคารแห่งประเทศไทย(
ธปท.) และ
กระทรวงการคลังมาหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามสถานการณ์และผลกระทบอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เห็นว่าในระยะสั้นคงยังไม่มีผลกระทบต่อไทยมากนัก เพียงแต่ระยะยาวอาจจำเป็นต้องมีมาตรการมารองรับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
"ธปท.ยืนยันว่าขณะนี้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็ง ถ้าเราคงสภาพไว้ได้ ก็เอาไว้ก่อน ไม่ต้องไปแทรกแซง QE ถือว่าเป็นเงินทุนในระยะสั้น คงไม่มีผลกระทบมากนัก แต่ระยะยาวอาจมีปัญหา แต่เรามีมาตรการรองรับ เรามั่นใจในการดูแลสถานการณ์ของ ธปท."นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ขณะนี้ลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรล รวมถึงกรณีที่มีเงินทุนเคลื่อนย้ายจาก EU เข้ามาในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ซึ่งไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่งและน่าลงทุน จึงคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในประเทศไทยค่อนข้างมาก
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงฝากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปช่วยติดตามสถานการณ์การเคลื่อนย้ายเงินทุน การเก็งกำไรค่าเงิน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]