นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.52/53 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่อง จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์ ประเด็นหลักๆยังเป็นเพราะดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วโลก ประกอบกับวันนี้มี Flow จากแรงขายแล้วก็เข้ามาในตลาดหุ้น
"วันนี้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับทุกสกุล แล้วก็มีแรงขายดอลลาร์ซื้อบาท มาเข้าทางตลาดหุ้น" นักบริหารเงิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ถ้าออกมาไม่ดีเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อ ถ้าหลุด 32.50 ก็อาจจะไปทดสอบ 32.35 ได้ แต่ถ้าออกมาดีเงินบาทก็น่าจะอ่อนค่า
"รอดูคืนนี้เงินบาทจะหลุด 32.50 มั้ย ถ้าหลุดก็มีโอกาสลงไปจนถึงระดับ 32.40...32.35 ได้ แต่ถ้าออกมาดีคิดว่าขึ้นไปก็คงอยู่ได้ชั่วคราว 32.65 ยังเป็นแนวต้านสำคัญ"ดังนั้น เบื้องต้นประเมินกรอบค่าเงินบาทในวันจันทร์ 32.35-32.65 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ คืนนี้
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.30 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 117.31 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1456 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1380 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,613.63 จุด เพิ่มขึ้น 5.71 จุด, +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 54,841.21 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,826.24 ลบ.(SET+MAI)
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบที่สองอีก หลังจากที่รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่เดือน ต.ค.57 ส่งผลต่อเศรษฐกิจภายใประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วในขณะนี้ ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย น่าจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ให้เติบโตได้ถึง 4%
- กรมบัญชีกลาง หารือร่วมกับส่วนราชการ 20 หน่วยงาน ที่มีงบลงทุนตั้งแต่ 300 -1,000 ล้านบาท คิดเป็นวงเงินลงทุนรวม 3.24 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 10% จากงบลงทุนรวม เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการก่อหนี้ การเบิกจ่าย ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการ โดยในเบื้องต้นคาดว่าภายในไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2558 (ม.ค.-มี.ค.58) ส่วนราชการดังกล่าวจะสามารถก่อหนี้ได้ 90-100% และภายในไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 58 (ก.ค.-ก.ย.58) คาดว่าส่วนราชการจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
- กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้นเพียง 0.1% เทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. นับเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีอ่อนแรงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศปี 2558 ลงสู่ช่วง 1.75-2.75% จากเดิมที่ประเมินไว้เมื่อเดือนพ.ย.ในช่วง 2-3% พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลงด้วย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซีย (Rosstat) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.อยู่ที่ 3.9% เมื่อเทียบกับระดับ 2.6% ในเดือนธ.ค.2557 โดยอัตราเงินเฟ้อล่าสุดสูงกว่าคาดการณ์ของ Rosstat ที่ 2.7% อย่างมากและมากกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 2.6%