พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบตามการรายงานของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ถึงผลการเบิกจ่ายงบประมาณตั้งแต่ ต.ค.57-ม.ค.58 โดยในส่วนของรายจ่ายประจำ สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 910,786 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.85% จากที่ตั้งเป้าหมายว่า ณ สิ้นมี.ค.58 จะต้องเบิกจ่ายได้ 60% และจนถึงสิ้น ก.ย.58 จะต้องเบิกจ่ายได้ 98% หรือคิดเป็นวงเงิน 2,083,013 ล้านบาท
ส่วนงบรายจ่ายลงทุน สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 58,253 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.96% จากที่ตั้งเป้าหมายว่า ณ สิ้นมี.ค.58 จะต้องเบิกจ่ายได้ 30% และจนถึงสิ้น ก.ย.58 จะต้องเบิกจ่ายได้ 80% หรือคิดเป็นวงเงิน 359,580 ล้านบาท ขณะที่เงินกันเหลื่อมปี สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 95,576 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27.85% จากที่ตั้งเป้าหมายว่า ณ สิ้นมี.ค.58 จะต้องเบิกจ่ายได้ 45% และจนถึงสิ้น ก.ย.58 จะต้องเบิกจ่ายได้ 85% หรือคิดเป็นวงเงิน 291,654 ล้านบาท
"การเบิกจ่ายงบดังกล่าวยังถือว่าห่างจากเป้าหมาย ดังนั้นรองนายกฯ จึงขอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐเร่งลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้ได้ตามเป้าในเดือนมี.ค. โดยเฉพาะหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบงบประมาณมากๆ เช่น กรมชลประทาน, กรมทรัพยากรน้ำ, สตช. เป็นต้น" รองโฆษกฯ ระบุ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมครม.ยังขอให้สำนักงบประมาณไปรวบรวมรายละเอียดการเบิกจ่ายงบประมาณของทุกกระทรวงภายในวันที่ 18 ก.พ.นี้ เพื่อรายงานให้คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)รับทราบ และนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไปว่าจำเป็นจะต้องมีการติดตามหรือเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนใดให้มีความเข้มข้นมากขึ้น