นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.60/63 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.65/67 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยมีสาเหตุหลักมาจากมีเงินทุนไหลเข้า ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ ยังไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินมากนักในวันนี้ โดยสัปดาห์หน้าอาจจะต้องจับตาการประกาศตัวเลข GDP ของสภาพัฒน์ในปี 57 และประมาณการปี 58 ซึ่งหากตัวเลข GDP ออกมาไม่ดี ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
"วันนี้บาทแข็งค่าจากช่วงเช้า มีสาเหตุหลักจาก capital inflow เพราะปัจจัยอื่นๆ ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมาก สัปดาห์หน้าคงต้องดูสภาพัฒน์รายงาน GDP ปี 57 และแนวโน้มปี 58 ถ้าออกมาไม่ดีอาจจะเป็นเหตุผลในทางอ้อมให้ที่ประชุม กนง.รอบหน้าลดดอกเบี้ยลงได้" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.60-32.72 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.87 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1423 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1315 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,615.89 เพิ่มขึ้น 2.49 จุด (+0.15%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 53,657 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 91.87 ลบ.(SET+MAI)
- นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง แนะนำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกับดอกเบี้ยในประเทศอื่นๆทั่วโลกที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ถือว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยังสามารถดูแลสถานการณ์ค่าเงินบาทได้อย่างเหมาะสม โดยยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางการคลังใดๆ เข้ามาช่วยดูแลค่าเงินในขณะนี้
- รมว.คลัง เผยมอบหมายให้สถาบันการเงินของรัฐไปดำเนินการจัดทำแผนช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยมาเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานฯ ในวันที่ 16 ก.พ.นี้
- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวที่ 4% ตามที่คาดไว้
- สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ได้ปรับเป้าการส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้ลงมาที่เติบโต 1.5% จากปลายปีที่แล้วที่คาดว่าปีนี้จะมีอัตราเติบโต 2.5% เนื่องจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมาก รวมทั้งเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นไม่ดี ล่าสุดมองว่าการส่งออกของไทยอาจเติบโตเพียง 1.1% จากปัจจัยค่าเงินบาท
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทสนใจซื้อซองประมูลขอรับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมรอบที่ 21 แล้วจำนวน 13 ราย โดยในส่วนของฝรั่งเศสได้รับทราบจากนายตีแยรี วีโต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ว่าจะยื่นซองในนามบริษัท โทเทล จำกัด ซึ่งจะยื่นซองแข่งขันภายในวันที่ 18 ก.พ.นี้
- นายปัง กงเจิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะมีบทบาทสำคัญในการร่างแผนการปฏิรูปและพัฒนา 5 ปี (2559-2563) ฉบับที่ 13 ซึ่งเห็นว่าการระดมทุนด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม จะเป็นส่วนสำคัญของการปฏิรูปและพัฒนาด้านการเงิน
- ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ธนาคารโลกจะจัดหาเงินช่วยเหลือวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครนในปี 2558
ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวจะมุ่งเน้นในด้านการคุ้มครองคนยากจนและสนับสนุนการปฏิรูปในอุตสาหกรรมก๊าซและภาคธนาคาร รวมทั้งใช้ในการปราบปราบคอร์รัปชัน และยกระดับธรรมาภิบาลและภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 38 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,342 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,228.48 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 4.12 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง