นายกฯ กำชับ ธปท.ดูแลอัตราดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ หลังส่งออกเริ่มฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 16, 2015 14:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแล 2 เรื่อง คือเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมในปีนี้โตได้ 3-4% ซึ่งมาจากภาคการส่งออกที่ดีขึ้น การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่จะช่วยในเรื่องของการจ้างงานมากขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลจะติดตามปัญหาหนี้สินครัวเรือน ซึ่งจะให้ธนาคารภาครัฐไปติดตามให้ความช่วยเหลือ แต่จะให้เคลียร์หนี้ทั้งหมดเป็นเรื่องยาก

"ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามารับหน้าที่เศรษฐกิจก็ดีขึ้นมา รวมถึงการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้รัฐบาลจะเน้นในเรื่องของส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเชื่อว่าไม่มีผลกระทบ แต่ได้มอบให้ธปท.ไปดูแลเรื่องอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการหารือทีมเศรษฐกิจถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย

ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ติดตามความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และให้ทำความเข้าใจกับชาวสวนยางว่า รัฐบาลสามารถนำเงินกองทุนมูลภัณฑ์กันชนมาใช้จ่ายซื้อยางในท้องตลาดได้เพียง 10% ซึ่งรัฐบาลต้องการเข้าไปซื้อยางของเกษตรกรเพื่อต้องการยกระดับราคายางในตลาดให้สูงขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามแก้ไขปัญหาเรื่องข้าว รวมถึงหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตสำหรับข้าวที่จะปลูกใหม่ในฤดูกาลต่อไป อาทิค่าปุ๋ย ค่าไถหว่าน โดยต้องการให้มีการรวมกลุ่มในรูปแบบของสหกรณ์ เพื่อต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร แม้อาจจะช้าไปบ้าง แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด

ส่วนการดูแลราคาสินค้า รัฐบาลจะกระตุ้นโดยการจัดงานธงฟ้า เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะขณะนี้ประชาชนไม่กล้าใช้จ่าย จึงขอร้องให้ยึดหลักพอเพียง มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ไม่ใช่ไม่ใช้เลย แต่มีน้อยก็เลือกใช้ให้ถูกต้อง ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษก็จะมีการค้าขายตามแนวชายแดนมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะส่งผลต่อภาพรวมทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม มองว่าตั้งแต่ตนเองเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน โดยส่วนหนึ่งมาจากการชี้วัดของสถานการณ์ในภาพรวม รวมถึงการประเมินจากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ