"วันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้หารือกับกระทรวงพลังงานมานานแล้ว ไม่ได้ถอยเพราะกลัว แต่ด้วยเหตุด้วยผลอยากให้ทุกคนเข้าใจ จึงได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ทำความเข้าใจกันอีกหน่อย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมการหาทางออกในอนาคตสำหรับแหล่งพลังงานสำรอง เพราะในปีหน้าก๊าซธรรมชาติจะหายจากตลาดไป 300 ล้านลูกบาศก์ฟุต จากกรณีที่มาเลเซียจะลดการส่งให้ไทย ทำให้จะต้องหาแหล่งซื้อก๊าซฯมาเพิ่ม ซึ่งราคาข้างนอกจะแพงกว่าในประเทศที่ขุดเจาะเอง
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มที่คัดค้านที่เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องพลังงาน แต่ยืนยันจะต้องมีแผนสำรองความมั่นคงด้านพลังงาน เพราะอีก 5 ปีพลังงานจะลดลง ดังนั้นจึงต้องไปดูกฎหมายพลังงานว่ามีระเบียบอย่างไร เพราะสุดท้ายคนที่เดือดร้อนคือประชาชน จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ เพราะเรื่องนี้ตามกฎหมาย เป็นอำนาจของกระทรวงพลังงานที่สามารถดำเนินการได้เลย แต่รัฐบาลก็พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ส่วนกรอบเวลาว่าจะเปิดสัมปทาน เมื่อใดนั้นต้องรอฟังความเห็นจากเวทีในวันที่ 20 ก.พ.ก่อน และในวันนั้น ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นตัวแทนรัฐบาลในการรับฟังความเห็นจากเวทีดังกล่าว
"ทุกฝ่ายที่คัดค้านจะต้องเอาเหตุผลมาชี้แจงกัน ไม่ใช่ทะเลาะเหมือนที่ผ่านมา และทุกฝ่ายจะเข้าร่วมแสดงความเห็นเพื่อให้ได้ข้อสรุป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว