ทั้งนี้ คาดว่าประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ที่น่าจะมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้บ้าง คือ บันทึกการประชุมของเฟดเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อาจจะได้เห็นการขยับปรับตัวบ้าง
ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ถือเป็นข่าวที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าหากเป็นแค่ข่าวในลักษณะนี้ แต่ยังไม่มีการออกมาตรการอะไรออกมาไม่ Effect ตลาดก็คงเล่นไปตามยูโรโซน และดอลลาร์มากกว่า
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 32.55-32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.62 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 118.60 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1405 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1410 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,608.04 จุด ลดลง 7.85 จุด, -0.49%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,501.40 ลบ.(SET+MAI)
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)คงคาดการณ์เศรษฐกิจปี 58 จะขยายตัวในระดับ 3.5-4.5% โดยมีปัจจัยหนุนคือการฟื้นตัวอยางช้า ๆ ของภาคการส่งออกตามทิศทางเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว การเร่งรัดการใช้จ่ายและโครงการลงทุนสำคัญของภาครัฐ ปริมาณการผลิตและจำหน่ายรถยนต์กลับมาขยายตัว ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวถึงความกังวลของหลายฝ่ายต่อภาวะเงินฝืด หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือน ม.ค.58 ติดลบ 0.41% ว่า เป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง แม้ว่าจะยังไม่ได้เกิดเงินฝืด โดยสามารถใช้นโยบายการเงินเข้ามาดูแลได้
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB EIC) ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยในระดับ 2% ยังสามารถสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวตามการลดลงของราคาน้ำมัน ขณะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปไม่ได้ลดลงจึงไม่ใช่การเกิดภาวะเงินฝืดแต่อย่างใด
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2558 น่าที่จะยังคงเติบโตเป็นบวกประมาณร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า(QoQ, SA) ขณะที่อัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอาจมีระดับสูงกว่าร้อยละ 4(YoY) เนื่องจากเปรียบเทียบกับฐานต่ำในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญมรสุมทางการเมืองในไตรมาส 1/2557 (ซึ่ง GDP หดตัวร้อยละ 0.5 YoY)
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแล 2 เรื่อง คือเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมในปีนี้โตได้ 3-4% ซึ่งมาจากภาคการส่งออกที่ดีขึ้น การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่จะช่วยในเรื่องของการจ้างงานมากขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลจะติดตามปัญหาหนี้สินครัวเรือน ซึ่งจะให้ธนาคารภาครัฐไปติดตามให้ความช่วยเหลือ แต่จะให้เคลียร์หนี้ทั้งหมดเป็นเรื่องยาก
- คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ให้ขยายเวลาการเปิดรับข้อเสนอการยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ซึ่งเป็นรอบใหม่ จนถึงวันที่ 16 มี.ค.58 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 ก.พ.นี้ หลังจากที่มีหลายฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกัน และรัฐบาลเตรียมที่จะเปิดรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆในวันที่ 20 ก.พ.นี้
- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากข้อมูลเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัว 1.0%
- การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงคลังยูโรโซนจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอเงินกู้ระยะสั้นของกรีซโดยปราศจากเงื่อนไขที่ได้มีการนำมาใช้กับกรีซจนกว่าจะสามารถหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาหนี้กรีซในระยะยาว
- นายมิเชล ซาแปง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ทางฝรั่งเศสพร้อมเปิดประตูเพื่อเจรจาปัญหาหนี้สินกรีซ โดยอาจมีการเจรจาต่อรองเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเลื่อนกำหนดเวลาการครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรของกรีซ
- เกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ตกลงกันในวันนี้ที่จะยุติข้อตกลงสว็อปสกุลเงินทวิภาคีซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 ก.พ. โดยไม่มีการต่ออายุ