โดยในเรื่องของรูปแบบ หลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเปิดประมูลต่างๆ นั้นรัฐบาลจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่จะให้เป็นหน้าที่การพิจารณาของ กสทช. เพียงแต่แนะนำว่าต้องการให้ขยาย Bandwidth ให้เพิ่มมากขึ้นเหมือนเช่นในต่างประเทศ ทั้งนี้ให้กสทช.เริ่มดำเนินการเปิดประมูลคลื่น 4G ได้ และต้องมีการรายงานความคืบหน้าให้คณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลฯ ได้รับทราบทุกเดือน
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่ารัฐบาลจะรวบรวมเส้นใยแก้วนำแสงหรือไฟเบอร์ออฟติกของเอกชนและหน่วยงานราชการเพื่อสร้างเครือข่ายบอร์ดแบรนด์ โดยใช้เวลา 3 เดือน ซึ่งในระหว่างนั้นจะจ้างผู้เชี่ยวชาญในการวางแผน และตั้งบริษัทใน 6-7 เดือน และสร้างเน็ตเวิร์คใน 10 เดือน ซึ่งเชื่อว่าภายในปี 2560 จะมีอินเทอร์เน็ตจะครอบคลุมได้ทั่วถึงทุกหมู่บ้าน โดยตนเองจะเป็นประธานในการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายมือถือหลายค่ายเพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกันจะมีการเปิดดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นใหม่ สำหรับเป็นศูนย์เครือข่ายรวบรวมข้อมูลทุกด้าน ซึ่งศูนย์นี้จะทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเปิดให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนและรัฐจะเปิดให้เอกชนมาประมูล โดยจะให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือน และเปิดใช้งานให้ได้ภายใน10 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลดสำเนากระดาษ เพื่อบริการประชาชน ซึ่งสามารถดึงข้อมูลได้จากบัตรประชาชนเพียงใบเดียว โดยจะขอความร่วมมือไปยังกระทรวงต่างๆ เพื่อออกกฎระเบียบในการให้บริการใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงนำร่อง ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย รวมถึงการขออนุญาตต่างๆ ก็จะลดให้การใช้สำเนากระดาษลง ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะใช้เวลา 5 เดือนในการดำเนินการ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะมีการเตรียมการส่งเสริมดิจิตอลคอมเมิร์ซ และสอนการใช้ดิจิตอลในธุรกิจเอ็สเอ็มอี พร้อมทั้งมีการจัดตั้งกองทุนดิจิตอลเพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงมีโครงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่มีการตั้งคณะกรรมการรวมกับกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีเครือข่ายการเรียนรู้ทางไกล โดยจะต้องมีการจัดแผนและนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป