เงินบาทเปิด 32.64/66 กลับมาแข็งค่า หลังเฟดยังไม่ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 32.60-32.80 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 121.20 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0840 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0612 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลkร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9060 บาท/ดอลลาร์
• นายเลิศชัย กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นั้น ไม่ได้มีเอื้อให้ธุรกิจขนาดใหญ่แห่ออกหุ้นกู้เพื่อล็อกต้นทุนดอกเบี้ยถูก เนื่องจากเป็นการลดดอกเบี้ยลงน้อยและส่งผลต่อเรื่องต้นทุนน้อยมาก อีกทั้งธุรกิจไทยอยู่ในภาวะดอกเบี้ยต่ำมานานมากแล้ว
• นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.จะจัดสัมมนารับฟังความเห็นการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนใน กิจการของรัฐ ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ โดยแบ่งกิจการเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.กิจการที่ต้องมีเอกชนร่วมลงทุน จำนวน 6 กิจการ คือ ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมือง ถนนที่เก็บค่าผ่านทางในเมือง ท่าเรือขนส่งสินค้า ระบบรถไฟความเร็วสูง โครงข่ายโทรคมนาคม และระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
• นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในอีก 9 เดือนข้างหน้านี้ ไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว เนื่องจากรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ตรงจุด โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งเป็นธุรกิจหลักสร้างรายได้ให้ประเทศยังติดลบ เงินบาทเพิ่งอ่อนค่าลง ญี่ปุ่นเริ่มย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นๆ แล้ว
• ธปท.ได้มีการจัดทำบทความเรื่อง “เงินทุนเคลื่อนย้ายระลอกใหม่จากธนาคารกลางยุโรป...นัยต่อภูมิภาคเอเชีย” ระบุว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ได้เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลภายใต้เม็ดเงินรวมกว่า 1.1 ล้านล้านยูโร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอและลดความเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด โดยการเข้าซื้อพันธบัตรครั้งแรกในช่วงต้นเดือน มี.ค.นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
• นายกฯ ผวาเศรษฐกิจทรุด สั่งรายงานสถานการณ์ทุกสัปดาห์ ด้าน สศช.คาด ไตรมาสแรกปีนี้โตเกิน 3% จากมาตรการกระตุ้น ชี้ "ท่องเที่ยว-ลงทุนภาครัฐ" ตัวขับเคลื่อนหลัก ขณะ "บัณฑิต" เชื่อกนง.ลดดอกเบี้ยหลังประเมินความเสี่ยงเศรษฐกิจเพิ่ม
• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อคืนนี้ว่า โดยได้ยืนยันอีกครั้งถึงเป้าหมายในปัจจุบันสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ที่ 0-0.25% นั้น ยังคงมีความเหมาะสม และคณะกรรมการพิจารณาว่าการปรับเพิ่มช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังคงไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในการประชุมนโยบายการเงินเดือนเม.ย. ซึ่งสอดคล้องกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้เนื่องจากแถลงการณ์หลังการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) แสดงให้เห็นว่าเฟดยังคงมีท่าทีระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0744 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0600 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4863 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4754 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.69 เยน เทียบกับระดับ 121.39 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9887 ฟรังก์ จาก 1.0066 ฟรังก์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7724 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7626 ดอลลาร์
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 2.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ขานรับถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ระบุว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ระดับ 1,151.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค.ลดลง 3.7 เซนต์ ปิดที่ 15.541 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,092.60 ดอลลาร์/ออนซ์