นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.5700 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(23 มี.ค.) อยู่ที่ 1.81920% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(23 มี.ค.) อยู่ที่ 1.78747%
*ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.77 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.95 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0930 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0827 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5630 บาท/ดอลลาร์
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแสดงให้เห็นว่ายอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ 4.88 ล้านยูนิต หลังจากดิ่งลงในเดือนม.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 4.9 ล้านยูนิต นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงซึมซับแถลงการณ์หลังการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งยังมีท่าทีไม่รีบร้อนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 148.77 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาดูดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.ของจีนจาก HSBC
- เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมี.ค.ลดลงแตะ 49.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน จาก 50.7 ในเดือนก.พ. ทั้งนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนมี.ค. ส่งสัญญาณย่ำแย่ลงเล็กน้อยในภาคการผลิตของจีน ขณะที่การปรับตัวลงระลอกใหม่ของธุรกิจใหม่ๆในเดือนมี.ค.ส่งผลให้การขยายตัวของผลผลิตอ่อนแรงลง ส่วนบริษัทต่างๆก็ยังคงลดจำนวนการจ้างงาน
- ธนาคารเพื่อการพัฒาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัว 6.3% ในปีนี้และปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่อ่อนแรงลง และจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากรายงานที่ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะของสหรัฐปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ ปิดที่ 47.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 55.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของ "เบเกอร์ ฮิวจ์"ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐปรับตัวลดลง 56 แห่ง มาอยู่ที่ระดับ 1,069 แห่งในสัปดาห์ที่ผ่ามา ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำนั้น เป็นเหตุให้กลุ่มผู้ผลิต shale oil ของสหรัฐ ลดปริมาณการผลิตลง