"หม่อมอุ๋ย"รับห่วงการค้าโลกหดกระทบส่งออกไทย-ขอประเมินเหตุเงินเฟ้อติดลบ 3 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 1, 2015 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังร่วมประชุมติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงในเรื่องปริมาณการค้าระหว่างประเทศที่ลดลงทั่วโลกส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออกของไทย โดยตนเองมีความเป็นห่วงมากกว่าเรื่องเงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่อง และยังแปลกใจที่การใช้จ่ายภาคประชาชนไม่เพิ่มขึ้นแม้ราคาน้ำมันจะลดลง ทำให้ยังไม่สามารถสรุปว่าเงินเฟ้อที่ติดลบเป็นผลจากการใช้จ่ายภาคประชาชนที่ลดลงหรือไม่ แต่หลังจากนี้รัฐบาลจะเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น ส่วนภาวะการลงทุนภาคเอกชนเริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากยอดการนำเข้าวัตถุดิบที่มีมากขึ้น

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะนำมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมาบังคับใช้แทนกฎอัยการศึกนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า จะส่งผลดีในเรื่องของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกาอาจเดินทางเข้ามามากขึ้น ซึ่งตนเองหวังว่ายอดรายได้จากการท่องเที่ยวจะมาช่วยชดเชยรายได้จากการส่งออกที่ชะลอตัวลง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่มีการทบทวนเรื่องจีดีพีปี 58 โดยยังคงไว้ที่ 4% ตามเดิม แต่ขอรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ก่อน

"ยังสู้อยู่ แต่ขอดูข้อมูลไตรมาสแรกของสภาพัฒน์ก่อน" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.58 พบว่า การเบิกจ่ายงบประมาณเดินหน้าไปแล้ว 55% ส่วนงบลงทุนที่ตั้งเป้าไว้ 30% ภายใน มี.ค.58 ได้เบิกจ่ายไปแล้ว 29.7% ดังนั้นงบประมาณที่เบิกจ่ายลงไปแล้วจะเห็นสัญญานที่ดีขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์ และหลังจากนี้ส่วนราชการก็ยังทยอยเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ