นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.56/58 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.45/47 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินภูมิภาค หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าตามแรงซื้อ
"ช่วงบ่ายดอลลาร์ against ทุกสกุล หลังมีแรงซื้อดอลลาร์ เงินบาทผันผวน 10 สตางค์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์
"รอดูคืนนี้ถ้าบาทผ่าน 32.60(บาท/ดอลลาร์) ทิศทางจะกลับมาอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.55 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.55 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,549.53 จุด เพิ่มขึ้น 13.48 จุด, +0.88% มูลค่าการซื้อขาย 32,524.48 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 674.14 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI)ในเดือน เม.ย.58 อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเนื่องจากมีวันหยุดมาก แต่จะไปเพิ่มในส่วนของการท่องเที่ยวมากขึ้น และหลังจากนั้นสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะเม็ดเงินเริ่มเข้าระบบแล้ว
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เผย กกร.ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกปีนี้เหลือโตไม่เกิน 1% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% เนื่องจากสถานการณ์การฟื้นตัวของภาคส่งออกยังหดตัวติดต่อกันสองเดือน อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ญี่ปุ่นและจีน ซึ่งนับเป็นความท้าทายที่ผู้ส่งออกไทยยังคงต้องเผชิญอยู่ในปีนี้ แต่ กกร.ยังประเมินการเติบโตของ GDP ปีนี้ไว้ที่ 3.5% โดยภาพเศรษฐกิจยังคงมีทิศทางฟื้นตัวอย่างช้าๆ ด้วยปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าโต 29% โดยคาดว่าตลอดทั้งปี จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 28 ล้านคน ส่วนปัญหาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศไทย(ICAO) นั้นมองว่าเป็นปัญหาระยะสั้น
- นายชาญวิทย์ ผลชีวิน โฆษกกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เผยช่วง 3 เดือนแรกของปี 58 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาไทย 7.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนช่วงวันที่ 1-4 เม.ย.58 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 337,490 คน เพิ่มขึ้น 37.8% จาก 1-4 เม.ย57 ที่มีจำนวน 244,919 คน ทั้งนี้ คาดว่าทั้งเดือน เม.ย.คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25%
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) รายงานผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยโดยบริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า JCR ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ(Foreign Currency Long-Term Issuer Rating) และสกุลเงินบาท(Local Currency Long-Term Issuer Rating) ที่ระดับ A- และ A ตามลำดับ และปรับสถานะมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจากลบ(Negative Outlook) เป็นมีเสถียรภาพ
- นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ตนและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีนมีแผนที่จะสานต่อการหารือระดับทวิภาคีที่กรุงปักกิ่งในเดือนมิ.ย. โดยประเด็นที่คาดว่ จะมีการหารือกัน คือ ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB)
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เริ่มการประชุมนโยบายการเงินเป็นวันแรกแล้วในวันนี้ โดยบีโอเจมีแนวโน้มที่จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป แม้มีความเป็นไปได้ว่าราคาผู้บริโภคจะปรับตัวลงสู่แดนลบ
- ธนาคารกลางอินเดียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 7.5% ในการประชุมวันนี้ ภายหลังจากที่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา