"ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยปีนี้หรือไม่ ขอดูมูลค่าการส่งออกเดือนมีนาคม และไตรมาสแรกปีนี้ รวมถึงขอคุยกับภาคเอกชนก่อน เมื่อได้ข้อมูลหมดแล้ว จึงจะรู้ว่าจะปรับเป้าหมายใหม่หรือไม่ แต่ตามวัฏจักรของการส่งออก ในช่วงต้นปีมักไม่ดี เพราะต่างประเทศเร่งซื้อของก่อนปลายปีไปแล้ว แต่จะกลับมาดีขึ้นช่วงไตรมาส 3 และ 4 ไปแล้ว" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำนั้น ในวันนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการโรงสกัดและโรงกลั่น รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาหารือเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาราคาผลปาล์มสด หรือผลปาล์มทะลายตกต่ำอยู่ในขณะนี้ โดยล่าสุด ณ วันที่ 3 เม.ย.58 ราคาผลปาล์ม(คละ) กิโลกรัม(กก.) ละ 3.70-5.00 บาท สูงกว่าราคาเดือน เม.ย.57 ที่อยู่ กก.ละ 3.78 บาท และราคาผลปาล์ม เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17% กก.ละ 4.60-5.00 บาท จากราคาเดือนเดียวกันปี 57 อยู่ที่ กก.ละ 3.91 บาท
สาเหตุที่ราคาผลปาล์มสดตกต่ำเพราะมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากในขณะนี้ ประกอบกับปริมาณน้ำมันที่สกัดได้อยู่ที่ 15-16% เท่านั้น จากมาตรฐานที่ 17% เพราะสภาพอากาศที่แห้งแล้งนานต่อเนื่อง เกษตรกรจึงขายได้ราคาไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ตามราคาที่ตกต่ำไม่ได้เป็นเพราะการนำเข้าน้ำมันดิบปริมาณ 50,000 ตันเมื่อเดือน ก.พ.58 เพราะน้ำมันที่นำเข้าได้บรรจุขวดจำหน่ายเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคหมดสิ้นไปตั้งแต่เดือน มี.ค.58 แล้ว
"จะหารือถึงความร่วมมือในการแก้ปัญหา ซึ่งต้องขอดูข้อมูลของแต่ละฝ่ายก่อน ส่วนจะขอให้โรงสกัด-โรงกลั่นรับซื้อผลปาล์มที่ กก.ละ 5 บาทหรือไม่ ต้องดูราคาตลาดโลกก่อน ถ้าราคาตกลง จะขอให้รับซื้อสูงกว่าราคาตลาดโลกคงไม่ได้ และรัฐบาลจะมีมาตรการแทรกแซงราคาหรือไม่ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ ขอดูข้อมูลทั้งหมดก่อน" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว