(เพิ่มเติม) สศค.ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือโต 3.7% จากเดิม 3.9% มองส่งออกโตแค่ 0.2%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 29, 2015 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 58 เหลือขยายตัว 3.7% หรือมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2% จากคาดการณ์เดิมที่ประเมินว่าจะเติบโตราว 3.9% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าคาด และการส่งออกฟื้นตัวช้า โดยคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.2% ต่ำกว่าเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 1.4%

อย่างไรก็ตาม สศค.มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ยังขยายตัวได้ดีกว่าปีก่อนที่เติบโต 0.7% โดยมีสาเหตุหลักจากการส่งออกบริการ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองไทยมากขึ้น

นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 58 ประกอบกับโครงการลงทุนที่มีความชัดเจน อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำ โครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน และโครงการลงทุนยกระดับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านการคมนาคมขนส่ง จะเป็นแรงกระตุ้นให้กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี สำหรับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากแนวโน้มการจ้างงาน และรายได้นอกภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดี รวมทั้ง แนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำจะช่วยให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการลงทุนภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้จะยังคงมีข้อจำกัดในการขยายตัวจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำลงจากที่คาดการณ์ครั้งก่อน

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2558 จะปรับลดลงจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 0.2% (โดยมีช่วงประมาณการที่ -0.3 ถึง 0.7%) ตามแนวโน้มการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งสินค้าในประเทศ ในส่วนของอัตราการว่างงานคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.8% ของกำลังแรงงานรวม

ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าดุลการค้าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่มูลค่านำเข้าสินค้าคาดว่าจะหดตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลประมาณ 17.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 4.6% ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 2.3 - 6.7% ของ GDP)

"ในการประมาณการเศรษฐกิจไทย จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ ความ ผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยน และแนวโน้มการลดลงของราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตร" นายกฤษฎา กล่าว

พร้อมกันนี้ สศค.ยังประเมินว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวดีขึ้น จากการเร่งลงทุนของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มีการทำสัญญาแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น รวมถึงการเบิกจ่ายของรัฐบาลที่ปีนี้คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 70%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ