เงินบาทปิด 33.60/62 แข็งค่าจากแรงขายดอลล์ คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.50-33.70

วันนี้ช่วงเช้าเงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ แต่พอช่วงบ่ายเงินบาทกลับมาแข็งค่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีแรงขายดอลลาร์ออกมาเพื่อซื้อบาท

"ตอนบ่ายเงินบาทย่อลง เพราะส่วนหนึ่งเป็นแรงจากตลาดหุ้น และส่วนหนึ่งน่าจะมีแรงซื้อบาท" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทมีโอกาสจะแข็งค่าได้ต่อ มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.50-33.70 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.78 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1200 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1220 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,495.95 เพิ่มขึ้น 10.23 จุด (+0.69%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 35,556 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 146.87 ลบ.(SET+MAI)
• ธนาคารกรุงไทย(KTB) กล่าวถึงผลการสำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในช่วงไตรมาสแรก พบว่าปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.53 ตามการลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นทั้งในปัจจุบันและอนาคต หลังเศรษฐกิจในไตรมาสแรกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด แม้ภาครัฐได้เร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่การบริโภคภาคเอกชนยังถูกบั่นทอนจากสัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น และการส่งออกที่หดตัว ฝ่ายวิจัยความเสี่ยงธุรกิจจึงได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 เหลือร้อยละ 3.0-3.5
• สำนักงานสถิติกลางของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นประจำไตรมาส 1/2558 ขยายตัว 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจาก 0.7% ในไตรมาสก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัว 0.5% ในช่วงสามเดือนแรกปีนี้
• สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส(Insee) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) เบื้องต้นประจำไตรมาส 1/58 ขยายตัว 0.6% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปี และแข็งแกร่งกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.4% หลังจากการเติบโตของเศรษฐกิจฝรั่งเศสหยุดนิ่งในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557
• สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี(Istat) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) เบื้องต้นประจำไตรมาส 1/58 ขยายตัว 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้าที่เศรษฐกิจไม่ขยายตัว โดยตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้เป็นอัตราขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 54 และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าเศรษฐกิจอิตาลีจะขยายตัว 0.2% ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้
• สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส(Insee) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือน เม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า เพราะได้ปัจจัยหนุนจากราคาสินค้าและบริการบางประเภท และหากเทียบเป็นรายปีแล้ว ดัชนี CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1%
• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน(NBS) เผยยอดค้าปลีกของจีนในเดือน เม.ย.ขยายตัว 10% เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอลงจาก 10.2% ในเดือน มี.ค. และหากเทียบรายเดือน ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 0.74% จากเดือน มี.ค.ซึ่งยอดค้าปลีกปรับขึ้น 0.64% จากเดือนก่อนหน้า

ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5.6% ในเดือน มี.ค. และหากเทียบรายเดือน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 0.57% จากเดือน มี.ค. ซึ่งมีการขยายตัว 0.25% จากเดือน ก.พ.

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศช่วง 4 เดือนแรกของปี 2558 เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา จีนมียอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 8.353 ล้านคัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นรถซีดาน 4.111 ล้านคัน
• รายงานเบื้องต้นจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกรอบ 4 ปีในปีงบประมาณ 2557 หลังราคาน้ำมันดิบลดลงจนฉุดการนำเข้าลง ทั้งนี้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งสิ้น 7.81 ล้านล้านเยนในปีที่สิ้นสุด ณ เดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 6.34 ล้านล้านเยน

---