(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 33.50/52 ทรงตัวจากวานนี้รอปัจจัยใหม่ แนวโน้มกลับมาแข็งค่า

"ทรงตัวค่อนข้างนิ่ง หลังจากวานนี้ swing ค่อนข้างมาก ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 33.45-33.55 บาท/ดอลลาร์

"แนวโน้มเงินบาทกลับมาแข็งค่าหลังอ่อนค่าไปมากในช่วงที่ผ่านมา ถ้าหลุด 33.45(บาท/ดอลลาร์)ลงมาได้ แนวรับต่อไปคือ 33.35(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.5767 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(14 พ.ค.) อยู่ที่ 1.35895% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(14 พ.ค.) อยู่ที่ 1.41005%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.38 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.20 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1410 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1412 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.4270 บาท/ดอลลาร์
• "ศูนย์วิจัยทองคำ" ประเมินการอ่อนค่าของเงินบาท ส่งผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศ ดันราคาสวนทางตลาดโลก ประเมินแนวโน้มยืนเหนือ 17,000 บาทต่อบาททองคำ โดยอยู่ระหว่าง 17,500-17,800 บาทต่อบาททองคำ "ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ" อยู่ที่ 53.11 จุด เพิ่มขึ้น 6.37% ประเมินแนวโน้มเงินบาท อ่อนค่าแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ แนะเล่นรอบทำกำไร
• สสว.คาด "จีดีพีเอสเอ็มอี" ปีนี้ โต 3.5% รับอานิสงส์การท่องเที่ยวโตพร้อมอัดฉีดงบลงทุนภาครัฐครึ่งปีหลังเริ่มขึ้นทะเบียนเอสเอ็มอี 20 พ.ค.นี้ ตั้งเป้า 1 แสนรายต่อปี
• กพช.เห็นชอบแผนพีดีพี 2015 พร้อมเคาะกรอบบริหารจัดการแหล่งก๊าซฯ ที่สัมปทานจะหมดอายุปรับลดสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงจาก 43 วันเหลือ 25 วัน หวังต้นทุนต่ำลงฉุดราคาน้ำมันลงอย่างน้อย 9 สตางค์ต่อลิตร
• คลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกรอบเน้นภาคเอสเอ็มอี และเกษตร เตรียมประกาศใช้ในช่วงเหมาะสม หวังช่วยกระตุ้นจีดีพีไทย ปีนี้โต 3.5% เผยเตรียมอนุมัติเพิ่มนาโนไฟแนนซ์อีก 1 แห่ง
• China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.08% แตะที่ 6.1085 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
• ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า ธนาคารกลางจะประเมินผลกระทบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อน ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน เม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ลดลง 62 เซนต์ ปิดที่ 59.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย.ลดลง 22 เซนต์ ปิดที่ 66.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ระดับ 1,225.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 24.4 เซนต์ ปิดที่ 17.465 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.พุ่งขึ้น 11.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,162.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.ลดลง 9.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 779.50 ดอลลาร์/ออนซ์
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้สกัดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเร็วๆนี้ โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1399 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1356 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5770 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5744 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.22 เยน เทียบกับระดับ 119.13 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9129 ฟรังก์ จาก 0.9168 ฟรังก์ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8069 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8101 ดอลลาร์