วันนี้เงินบาทค่อนข้างผันผวน โดยระหว่างวันเงินบาทปรับตัวแข็งค่าและกลับมาอ่อนค่าในช่วงปิดตลาด ซึ่งระหว่างวันเงินบาททำ high สุดที่ระดับ 33.44 บาท/ดอลลาร์ และทำ low สุดที่ระดับ 33.31 บาท/ดอลลาร์
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทน่าจะแกว่งอยู่ในกรอบ 33.30-33.60 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.08/10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า 119.96 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร เย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1192/1194 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้า 1.1295 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,525.96 เพิ่มขึ้น 15.55 จุด (+1.03%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 41,324 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 604.50 ลบ.(SET+MAI)
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วม ระหว่าง คสช.และคณะรัฐมนตรี มีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 เพื่อเปิดให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
- นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยได้แสดงจุดยืนร่วมกันถึงการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ โดยทางธนาคารพาณิชย์พร้อมที่จะเข้าดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพให้มีสภาพคล่องอย่างเพียงพอแก่การดำเนินธุรกิจต่อไป เพราะการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มากขึ้น ส่วนการปรับลดดอกกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 มีนาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,730,519.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.33 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 10,093.66 ล้านบาท
- กระทรวงการคลังของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ตัวแทนจาก 57 ประเทศสมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ที่มีจีนเป็นแกนนำ จะประชุมร่วมกันที่สิงคโปร์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้
- นายเบอนัว เกอร์ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB เตรียม front load โครงการซื้อสินทรัพย์หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงเดือนพ.ค.และมิ.ย. เพื่อหนุนสภาพคล่องที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงในช่วงวันหยุดฤดูร้อนกลางปีนี้
แถลงการณ์ระบุว่า ทางธนาคารกลางยุโรปตระหนักดีถึงลักษณะของตลาดตราสารหนี้ ซึ่งมักมีสภาพคล่องต่ำในช่วงกลางเดือนก.ค.ไปจนถึงเดือนส.ค.เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุด ทั้งนี้ เมื่อสภาพคล่องในตลาดปรับตัวดีขึ้นก็อาจจะมีการ back load ในเดือนก.ย.
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 7.5% ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับระบุว่า จะผ่อนปรนกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- สภาแห่งรัฐจีน เปิดเผยแผนแม่บทระดับชาติ ซึ่งมีชื่อว่า "Made in China 2025" ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมภาคการผลิต โดยแผนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีนแล้ว "Made in China 2025" เป็นแผนแม่บทระยะเวลา 10 ปีแผนแรก ที่วางแผนปฏิรูปและเปลี่ยนโฉมจีนจากยักษ์ใหญ่ด้านการผลิต ไปสู่มหาอำนาจในการผลิตระดับโลก