วันนี้เงินบาทค่อนข้างผันผวน โดยระหว่างวันทำ high สุดที่ระดับ 33.44/ดอลลาร์ บาท และทำ low สุดที่ระดับ 33.33 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาไม่ค่อยดี เช่น ตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิต
นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าการเคลื่อนไหวของเงินบาทมีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง คืออ่อนค่าและแข็งค่า โดยการอ่อนค่าจะมาจากที่เข้าสู่ช่วงปลายเดือน จึงทำให้มีความต้องการซื้อดอลลาร์มากขึ้น ส่วนเหตุที่แข็งค่า อาจเกิดจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะออกมาแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งนักลงทุนต่างรอดูเพื่อประเมินความชัดเจนเรื่องที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยคาดว่าเงินบาทสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.20-33.50 บาท/ดอลลาร
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.76/78 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.95 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1195 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1125 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,523.86 ลดลง 2.39 จุด (-0.16%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 38,512 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,295.09 ลบ.(SET+MAI)
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 4 รายของไทย โดยคงอันดับเครดิตสากลระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating (IDR) ของธนาคารกรุงเทพ(BBL), ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ไว้ที่ 'BBB+' และคงอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวของธนาคารเหล่านี้ที่ 'AA(tha)' และคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวของธนาคารกรุงไทย(KTB) ที่ 'BBB' และคงอันดับความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha) โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษ เพื่อล้างหนี้ วงเงินกว่า 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้เป็นหนี้จากโครงการรับจำนำข้าวกว่า 5.2 แสนล้านบาท และที่เหลือเป็นหนี้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.), หนี้ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และหนี้กองทุนประกันสังคม โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการออกกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่จะนำเสนอสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ต่ออไป
สำหรับแนวทางในการบริหารจัดการหนี้ดังกล่าวนี้ ในเบื้องต้นจะใช้วิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล โดยจะเน้นอายุ 3 ปี, 5 ปี, 7 ปี, 10 ปี และ 12 ปี ซึ่งแผนบริหารหนี้ทั้งหมดนี้จะครอบคลุมภายในระยะเวลา 20 ปี โดยจะเน้นออกตามความต้องการของตลาดเป็นหลัก
- นักลงทุนต่างรอดูการแถลงเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันนี้ เพื่อที่จะประเมินความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิต หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนในเดือนมี.ค. .
- มาร์กิต รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.1 ในเดือนเม.ย.
- นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์หนี้สินของกรีซ หลังจากมีรายงานว่าการเจรจานอกรอบร่วมกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รวมทั้งนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซเมื่อวานนี้ ไม่มีความคืบหน้าว่าจะมีทางออกเกี่ยวกับเรื่องการให้เงินช่วยเหลืองวดต่อไปแก่กรีซแต่อย่างใด
- นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ได้ออกมาแสดงทัศนคติเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งช่วยลดความสับสนของนักลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยรายงานประเมินเศรษฐกิจที่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรายงานฉบับก่อน โดยปัจจุบันญี่ปุ่นยังไม่จำเป็นต้องมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%