ทั้งนี้ ขบวนการ Fit biding ดังกล่าว จะประเมินพื้นที่หรือโซนนิ่งจากศักยภาพของเชื้อเพลิง และระบบสายส่งที่รองรับโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าระบบได้ ซึ่งปัจจุบันกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานอยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปศักยภาพของเชื้อเพลิงที่สอดคล้องกับระบบสายส่งในแต่ละพื้นที่ได้ภายในระหว่างเดือนมิ.ย.-ก.ค.58 โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) จะนำผลการจัดทำโซนนิ่งดังกล่าว ไปประกอบการกำหนดขั้นตอนเงื่อนไขหลักเกณฑ์ เพื่อการพิจารณาประกอบการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากผู้ประกอบการแต่ละรายต่อไป
"หัวใจของระบบ FiT biding ที่จะนำมาใช้กำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกครั้งนี้ คือเรื่องความพร้อมของวัตถุดิบและระบบสายส่งของแต่ละพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีวัตถุดิบในเรื่องชีวมวลมาก ก็จะดูความพร้อมของระบบสายส่งควบคู่ไปด้วย และต้องสอดคล้องกับศักยภาพการผลิตด้วย โดยการนำระบบนี้มาใช้จะสร้างความยุติธรรมให้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น จากเดิมที่จะใช้ระบบ Adder ซึ่งเป็นรูปแบบใครยื่นเจตจำนงก่อนก็ได้สร้างก่อน ซึ่งไม่มีความชัดเจน แต่การกำหนดโซนนิ่งและดูระบบสายส่งแต่ละพื้นที่ จะทำให้เกิดการแข่งขันและสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย" นายธรรมยศ กล่าว
นายธรรมยศ กล่าวเพิ่มว่า ในการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานจากขยะนั้น จะมีการเตรียมโปรแกรมการส่งเสริม และคัดเลือกโครงการในรูปแบบที่เหมาะสมต่างหากออกไป ในกรณีของการส่งเสริมขยะชุมชนเพื่อผลิตพลังงาน จะปรับให้สอดคล้องและบูรณาการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และในกรณีของขยะอุตสาหกรรม ก็จะปรับให้รองรับกับแผนการส่งเสริมของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันแผนดังกล่าว และเชื่อว่าจะสรุปผลได้เร็วๆ นี้