เงินบาทปิด 33.71/74 รอความชัดเจนกนง.พรุ่งนี้ มีโอกาสแตะ 34 หากลดดบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 9, 2015 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.71/74 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.71/73 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแกว่งในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีมติอย่างไรในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศช่วงนี้ยังเป็นเพียงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ

"คงต้องรอดูพรุ่งนี้ว่า กนง.จะตัดสินใจคง หรือลดดอกเบี้ย เพราะถ้าลดอีกรอบเชื่อว่าบาทน่าจะแตะ 34 บาท/ดอลลาร์แน่นอน" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.59-33.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.08/15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 124.41/44 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1255/1265 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1323/1326 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,492.32 ลดลง 15.96 จุด (-1.06%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 41,147 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 492.87 ลบ.(SET+MAI)
  • นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนมิ.ย.58 หดตัวลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 43.11 จุด ลดลง 10.0 จุด เป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นระดับอ้างอิง สะท้อนมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำในประเทศเดือนมิถุนายน แต่มองอ่อนตัวไม่มากเพราะค่าดัชนียังอยู่ใกล้ระดับ 50 จุด โดยปัจจัยลบต่อราคาทองคำ คือ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าหลังจากประธานเฟดเน้นย้ำการขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ ส่วนปัจจัยบวกสำคัญ คือ การอ่อนตัวของค่าเงินบาทที่ยังเชื่อว่ามีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน(KR-ECI) เดือนพ.ค. 58 อยู่ที่ 45.0 จาก 45.8 ในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ที่สะท้อนมุมมองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า(3-month Expected KR-ECI) อยู่ที่ 46.2 โดยปรับตัวลงมาแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 9 เดือนด้วยเช่นเดียวกัน ผลสำรวจ สะท้อนว่า หากมองออกมาจากในมุมของภาคครัวเรือนแล้ว สภาวะแวดล้อม/ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้ ยังคงมีสัญญาณที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะสถานการณ์รายได้ และเงินออมที่ยังไม่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ ภาระค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ และการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนของครัวเรือน ก็ยังคงไม่ปรับลดลงมามากนัก แม้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ และอัตราดอกเบี้ยได้เริ่มทยอยปรับลดลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ต่ออีกวาระหนึ่ง
  • สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้แทนจากกรีซได้ยื่นข้อเสนอปฏิรูปต่อเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการขอรับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวครอบคลุมถึงเป้าหมายด้านการคลัง
  • อัตราความเสี่ยงที่อินโดนีเซียจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากการออกพันธบัตร พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในปีนี้ ขณะที่การร่วงลงของค่าเงินรูเปียห์ และตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศที่สูงขึ้นนั้น ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่านักลงทุนต่างชาติอาจจะถอนการลงทุนออกจากอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ ค่าประกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Default Swaps :CDS) ระยะ 5 ปีของอินโดนีเซีย พุ่งขึ้น 0.19% แตะที่ 180 ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อินโดนีเซียติดกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงในการชำระหนี้สูงสุดในเอเชีย ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียจะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 7% ไปจนถึงเดือนก.ย.นี้

  • ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากราคาสินค้า เช่น อาหาร ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลออกมาปรับลดการประเมินความเชื่อมั่น โดยดัชนีความเชื่อมั่นของครัวเรือน(ที่มีสมาชิกอย่างน้อย 2 คน) ปรับตัวลดลง 0.1 จุด จากเดือนเม.ย. แตะ 41.4
  • การประชุมสุดยอดของบรรดาผู้นำของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ได้ปิดฉากลงเมื่อวานนี้ โดยมีการให้คำมั่นที่จะดำเนินการในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การค้าโลก ความขัดแย้งในยูแครน ไปจนถึง การต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ