สาระสำคัญของพ.ร.บ.ฉบับใหม่นั้น มี 2 ประเด็น คือ 1. ที่ดินที่เหลือจากการที่รัฐนำมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนแล้วไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เลย ซึ่งกฎหมายฉบับเก่าไม่สามารถนำไปใช้ในกรณีอื่นได้เลยต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนเท่านั้น แต่กฎหมายฉบับใหม่สามารถนำส่วนที่เหลือเอาไปใช้แก้ปัญหาสังคม หรือ ทำประโยชน์ในลักษณะของรัฐสวัสดิการได้ ซึ่งทำให้ที่ดินเวนคืนได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า
กรณีที่ 2 ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียแม้ว่าจะไม่ใช้เจ้าของที่ดิน อาทิ เคยขายของในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งกฎหมายเดิมจะไม่ดูแลคนกลุ่มนี้ แต่กฎหมายใหม่เห็นว่าแม้รัฐจะไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแต่ก็ได้รับผลกระทบด้วย ก็จะมีการให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในลักษณะดังกล่าวด้วย
นอกเหนือจากนั้น ที่ดินที่มีการเวนคืนไป บางส่วนรัฐเวนคืนไปไม่หมด เอาเฉพาะเท่าที่รัฐต้องการหรือจำเป็นไป ทำให้เจ้าของที่ดินเหลือที่ดินอยู่ส่วนน้อยไม่สามารถทำประโยชน์ใดๆได้ กรณีไม่เหลือ 25 ตารางวา หรือความกว้างส่วนหนึ่งส่วนใดยาวไม่เกิน 5 วา นอกเหนือจากนั้นแล้วที่ดินบางส่วนที่เหลือตรงนี้เมื่อนำไปรวมกับที่ดินแปลงที่อยู่ติดกันแต่เป็นที่ดินของเจ้าของเดียวกัน รวมกันแล้วไม่เกิน 25 ตารางวา ก็ส่งผลเสียคือเจ้าของที่ดินเอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ ขายต่อก็ได้ราคาไม่ดี เพราะเป็นที่ดินที่มีจำนวนน้อยเกินไป กฎหมายใหม่กำหนดไว้ว่ารัฐต้องเวนคืนที่ดินส่วนนี้ด้วยเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อเจ้าของที่ดิน
ประเด็นสุดท้าย ที่ผ่านมาเวลามีการชดเชยค่าที่ดิน ถ้าราษฎรไม่พอใจกว่าจะร้องอุทธรณ์ ก็มีระยะเวลานาน แต่กฎหมายใหม่ระบุว่าเมื่อได้รับการชดเชยแล้ว ราษฎรไม่พึงพอใจ ผู้ที่มีปัญหาจะต้องร้องเรียนภายใน 120 วัน และผู้มีส่วนพิจารณาคำอุทธรณ์ของประชาชนต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ถือว่าเป็นการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วไม่ให้เป็นปัญหาค้างคา