อย่างไรก็ตามขณะนี้ กรมการบินพลเรือน (บพ.) ได้ปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติงาน ในส่วนของกลุ่มตรวจสอบการปฏิบัติการบิน(FOIM : Flight Operations Inspector Manual) และคู่มือการตรวจสอบมาตรฐานสายการบิน (AOCR: AIR OPERATOR CERTIFICATE REQUIREMENTS) เสร็จแล้ว โดยอยู่ในช่วงการประกาศเพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 7 วัน และหากจะต้องมีการปรับแผนก็จะมีระยะเวลาในการปรับปรุงอีกประมาณ 65 วัน จากนั้นจะจัดหลักสูตรอบรม ซึ่งจะต้องรอผู้เชี่ยวชาญได้ประสานงานไปเข้ามาฝึกอบรมดังกล่าวด้วย
ส่วนการตรวจสอบมาตรฐานสายการบินจะแล้วเสร็จเป็นเมื่อใดนั้น ยังบอกชัดเจนไม่ได้ เพราะต้องดูจำนวนบุคลากรที่จะจัดทีมก่อน โดยเบื้องต้นต้องการจัดทีม 6-7 ทีมๆละ 4-5 คนในการตรวจสอบมาตรฐานสายการบิน เพื่อความรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับว่าจะมีบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมเท่าใดด้วย
“เรื่องปรับปรุงแก้ไขทุกเรื่องจะต้องคุยกับ ICAO แต่ขณะเดียวกัน FAA จะเข้ามา ต้องคุยกับ FAA ด้วย ส่วนสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป หรือ เอียซ่า (EASA)ที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา จะมีรายละเอียดในวันที่ 27 มิ.ย.จะต้องรอดูว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างเพื่อความชัดเจน"พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ยังคาดหวังว่าหากคณะผู้ตรวจสอบมาทำการประเมินใหม่เฉพาะเรื่อง หรือที่เรียกว่า ICAO Coordinated Validation Mission (ICVM) อาจจะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ประธาน ICAO ได้หารือไว้กับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ที่เดินทางไปพบเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา อาจจะทำให้ปลดข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ(Significant Safety Concern: SSC) ได้เร็วขึ้น
สำหรับการตรวจสอบสายการบินเพื่อออก AOC ให้ใหม่นั้น จะเป็นกลุ่มตามจำนวนที่นั่ง คือ แบบ A มี 3 สายการบิน คือ แบบ A จะมีสายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, นกสกู๊ต แบบ B มี สายการบินไทยสมายล์, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, อาร์แอร์ไลน์, ไทยเวียดเจ็ท แบบ C มีสายการบินนกแอร์, ไทย ไลอ้อน แอร์ , สบายดี แอร์เวย์ส, สยามแอร์ ,ซิตี้แอร์เวย์ แบบ D มีสายการบินบิสสิเนสแอร์, โอเรียนท์ไทย, เจ็ทเอเชีย, เอเชี่ยนแอร์, เอเชียแอตแลนติกแอร์ไลน์ แบบ E เป็นสายการบินขนส่งสินค้า หรือคาร์โก้ มี ไทยเอ็กซ์เพรส,และ กลุ่มสุดท้ายอีกประมาณ 8 สายการ