ส่วนข้อเสนอให้ใช้น้ำมันปาล์มนำไปผลิตเป็นไฟฟ้านั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ขัดข้องกับข้อเสนอนี้ เพราะอยู่ในแผนพลังงานอยู่แล้ว แต่ต้องไปดูในรายละเอียดว่า เอกชนรายใดจะเข้ามาลงทุน ใช้เงินทุนเท่าไร่ รวมถึงต้องพิจารณาว่าวัตถุดิบเพียงพอหรือไม่
"ถ้าทำโรงงานขนาดเล็กมันพอทำได้ แต่ต้องใช้ในพื้นที่เล็กๆ จำกัด แต่จะพอไปขับเคลื่อนเยอะๆ ได้หรือไม่ ไม่ได้หรอก...ถ้ามันสร้างไม่ได้แล้วเกิดปัญหามากขึ้น ไฟฟ้าไม่พอใช้ในภาคใต้ ใครรับผิดชอบ พวกมาต่อต้านรับผิดชอบหรือไม่ ไม่รับผิดชอบทั้งสิ้น ผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน ผมฟังเสียงทุกคน แต่ผมต้องทำตามหลักการหลักเกณฑ์...ถ้าให้ชัดผมก็บอกว่า ไม่สร้าง ไม่สร้างก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ ค่าไฟฟ้าภาคใต้ก็สูงกว่าภาคอื่น เลือกเอา ผมก็พร้อมทำทุกอย่าง แต่อย่ามาร้องว่าไม่มีไฟฟ้าใช้"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า ขณะนี้โครงการฯอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานฉบับสมบูรณ์โดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อดำเนินงานตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินงานโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเชิงพาณิชย์ ในการกำจัดมลภาวะทางอากาศและโลหะหนักต่างๆ ตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับประเทศและเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ที่โรงไฟฟ้าไม่ได้สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
"ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา กฟผ. ได้รับฟังข้อห่วงใยและแก้ไขปรับปรุงการดำเนินงานทั้งด้านการผลิตไฟฟ้าและการขนส่งเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตามข้อเสนอของชุมชน ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว ประมง เกษตรกรรม ตลอดจนนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม จากการรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ระหว่างเดือนสิงหาคม 2555 – ตุลาคม 2557" กฟผ.ระบุ