นายกฯ มอบก.พลังงานสร้างความเข้าใจเครือข่ายค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 21, 2015 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานเข้าไปพูคคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน จังหวัดกระบี่ที่มาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งเรื่องนี้หากไม่สร้างภาคใต้จะมีปัญหาเรื่องการใช้ไฟฟ้า เพราะอนาคตข้างหน้าจะมีการลดการส่งก๊าซเพื่อทำไฟฟ้า ดังนั้น ต้องหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ ซึ่งเรื่องจะต้องผ่านขั้นตอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EIA และ HIA ดังนั้นทั้งกระทรวงพลังงานและชาวบ้านควรจะพูดคุยเพื่อให้ได้ข้อยุติ

ส่วนข้อเสนอให้ใช้น้ำมันปาล์มนำไปผลิตเป็นไฟฟ้านั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ขัดข้องกับข้อเสนอนี้ เพราะอยู่ในแผนพลังงานอยู่แล้ว แต่ต้องไปดูในรายละเอียดว่า เอกชนรายใดจะเข้ามาลงทุน ใช้เงินทุนเท่าไร่ รวมถึงต้องพิจารณาว่าวัตถุดิบเพียงพอหรือไม่

"ถ้าทำโรงงานขนาดเล็กมันพอทำได้ แต่ต้องใช้ในพื้นที่เล็กๆ จำกัด แต่จะพอไปขับเคลื่อนเยอะๆ ได้หรือไม่ ไม่ได้หรอก...ถ้ามันสร้างไม่ได้แล้วเกิดปัญหามากขึ้น ไฟฟ้าไม่พอใช้ในภาคใต้ ใครรับผิดชอบ พวกมาต่อต้านรับผิดชอบหรือไม่ ไม่รับผิดชอบทั้งสิ้น ผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน ผมฟังเสียงทุกคน แต่ผมต้องทำตามหลักการหลักเกณฑ์...ถ้าให้ชัดผมก็บอกว่า ไม่สร้าง ไม่สร้างก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ ค่าไฟฟ้าภาคใต้ก็สูงกว่าภาคอื่น เลือกเอา ผมก็พร้อมทำทุกอย่าง แต่อย่ามาร้องว่าไม่มีไฟฟ้าใช้"พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า ขณะนี้โครงการฯอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานฉบับสมบูรณ์โดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อดำเนินงานตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สำหรับการดำเนินงานโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเชิงพาณิชย์ ในการกำจัดมลภาวะทางอากาศและโลหะหนักต่างๆ ตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับประเทศและเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ที่โรงไฟฟ้าไม่ได้สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

"ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา กฟผ. ได้รับฟังข้อห่วงใยและแก้ไขปรับปรุงการดำเนินงานทั้งด้านการผลิตไฟฟ้าและการขนส่งเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตามข้อเสนอของชุมชน ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว ประมง เกษตรกรรม ตลอดจนนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม จากการรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ระหว่างเดือนสิงหาคม 2555 – ตุลาคม 2557" กฟผ.ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ